ความคืบหน้ากรณีชาย อายุ 23 ปี สัญชาติยูเครนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติ รวม 4 คน  ลวงมายังห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จากนั้นได้จับมือมัดเท้าและข่มขู่จะหักนิ้ว พร้อมบังคับให้โอนเงินสกุลดิจิตอล จำนวน 2.5 แสนยูเอสดีที หรือคิดเป็นเงินไทยจำนวนกว่า 8.5 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลา,ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และชุดสืบสวน สภ.กมล ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีปล้นทรัพย์ (เหรียญคลิปโดฯ) นักท่องเที่ยวชาวยูเครน 2.5 แสนยูเอสดีที หรือคิดเป็นเงินไทยจำนวนกว่า 8.5 ล้านบาท  หลังจากได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับคนร้าย 4 คนในความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นกระทำการใดให้แก่ผุ้กระทำหรือบุคคลอื่น” โดยสามารถจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อช่วงสายวันนี้ (11 พ.ย.67) และได้นำตัวมาสอบสวนเพื่อหามูลเหตุการกระทำผิด เบื้องต้นยังให้การปฎิเสธ

พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และน่าสนใจ ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนละบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8  ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต บูรณาการทำงานร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ในการสืบสวนสอบสวนติดตามหาตัวคนร้าย จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ดังกล่าว