"กูรูไพศาล" ชี้ศึก "เขากระโดง" ทำ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ส่อแตกหัก!

วันที่ 12 พ.ย.67 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า...เพลงกระบี่อำมหิตบรรเลงแล้วเพื่อไทยเดือดกระซวกคืนภูมิใจไทย ส่อแตกหัก

1 ความเดิมคือกระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรีออกคำสั่ง ให้เพิกถอน กรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์ อ้างว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นผลทางกฎหมาย ให้บริษัทอัลไพร์กอล์ฟของตระกูลชินวัตร ต้องฟ้องคดีต่อศาลภายใน 90 วัน มิฉะนั้นก็จะเป็นยุติว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์นายกองค์อุ๊งอิ๊งก็จะต้องข้อหา ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงตกกระป๋องทันที ในขณะเดียวกัน ที่ดินการรถไฟเขากระโดง 5,083 ไร่ ซึ่งศาลสูงสุดตัดสินแล้วถึง 2 คดี ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่เอกชนเอาที่ดินการรถไฟดังกล่าวไปออกโฉนด ให้เป็นของการรถไฟ ปรากฏว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้มีคำสั่งใดๆ แต่อธิบดีกรมที่ดินไปตั้งกรรมการตรวจสอบคำตัดสินของศาล แล้วมีมติเป็นเอกสารแจ้งไปยังการรถไฟว่าไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เท่ากับเป็นการอุ้ม สำนักเขากระโดงทั้งสำนัก

2 อย่างนี้มันก็อยู่กันไม่ได้สิครับ มีการเคลื่อนไหว เพิ่มเติมดังนี้

เมื่อวานนี้นายทรงศักดิ์ ทองศรี แกนนำสำคัญของสำนักเขากระโดงแถลงยืนยันว่า จะไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงเด็ดขาด และเรื่องจบแล้ว

เมื่อวานนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแถลงว่า คำพิพากษาศาลสูงสุด ว่าที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่เป็นของการรถไฟ ให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์นั้นถึงที่สุดแล้วผูกพันส่วนราชการทั้งหมด กรมที่ดินจะต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามคำพิพากษาของศาล 
หักกันซึ่งหน้าแบบนี้ก็หนาวๆร้อนๆกันทั้งกระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดินสิครับ เพราะรัฐมนตรียุติธรรม จะพูดเอามันอย่างเดียวไม่ได้ เมื่อทราบความอย่างนี้แล้ว ก็มีหน้าที่ต้องรายงานนายกให้มีคำสั่งตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ให้กระทรวงมหาดไทยเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง เป็นของการรถไฟด้วย มิฉะนั้นก็จะมีความผิดซ้ำรอยนายกยิ่งลักษณ์ไงล่ะครับ

เมื่อวานนี้เช่นเดียวกัน นายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแถลงว่า ได้สั่งการให้การรถไฟ ไปยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ทำให้ศาลทำการไต่สวนเพื่อมีคำสั่งให้กรมที่ดิน ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลต่อไป ก็จะมีผลทางกฎหมายเชื่อมโยงไปถึง นักการเมืองสำนักเขากระโดงที่อาจต้องข้อหาละเมิดจริยธรรม ต่อไปด้วย และที่สำคัญ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม จะสั่งน้ำลายอย่างเดียวไม่ได้ ก็จะต้องติดตามกำกับ ให้การรถไฟเข้าครอบครองทำประโยชน์ ที่ดินพระราชทาน 5,083 ไร่นี้ในทันที และอาจต้องเรียกค่าเสียหาย จากผู้ครอบครองทำประโยชน์โดยผิดกฎหมายต่อไปด้วย

ก็ต้องดูต่อไปครับ ว่าเพลงกระบี่อำมหิตจะกระซวกกันอย่างไรต่อไป แต่ขณะเดียวกันประชาชนไทยทั้งประเทศ ตอนนี้ลุกฮือขึ้นแล้ว เพราะไม่ยินยอมให้ ขบวนการโกงชาติโกงที่ดินการรถไฟไปเป็นของส่วนตัวได้ โดยเด็ดขาด