เครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริขยายผลองค์ความรู้สู่เกษตรกรแบบครบวงจร

นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ พื้นที่อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร หลังจากเป็นประธานในพิธีมอบโล่พร้อมเกียรติบัตรให้แก่ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ2567 ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร ว่า ปัจจุบันศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ มีการศึกษา ทดลอง วิจัยและพัฒนาที่แล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้น 296 เรื่อง มีองค์ความรู้ที่โดดเด่น 26 เรื่อง โดยในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวนผู้เข้าศึกษาดูงานกว่า 68,872 คน 767 คณะ มีการฝึกอบรมแบบ New Normal หรือออนไลน์ 12 กิจกรรม จำนวน 2,000 คน

“การให้บริการแก่เกษตรกรที่สนใจของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ อาจมีข้อจำกัดของผู้ที่มาใช้บริการ เช่น ระยะทาง หรือช่วงเวลาที่จะเข้าอบรมไม่ตรงกับตารางการให้บริการ ในขณะที่เกษตรกรมีความสนใจที่จะเข้ามาศึกษาดูงานและฝึกอบรมเกี่ยวกับการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง การขยายผลเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินการของเกษตรกรที่นำองค์ความรู้ต่างๆ จากศูนย์ศึกษาไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จให้เกษตรกรที่สนใจเข้าศึกษาดูงานเพื่อนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง ตั้งแต่การปลูกพืชไปจนถึงการเลี้ยงสัตว์และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม ทั้งนี้ก็เพื่ออนาคตที่ดีมีคุณภาพทั้งประชากรและประเทศชาติ สำนักงานกปร.ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว

ด้าน นายสัตวแพทย์วิสุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้ากลุ่มงานศึกษาและปรับปรุงพันธุ์สัตว์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ เผยว่า ศูนย์เรียนรู้ฯ ในส่วนของปศุสัตว์จะเน้นการเลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่การเพาะขยายพันธุ์เพียงอย่างเดียว แต่เลี้ยงจนโตและให้สมบูรณ์ ตัวใหญ่ สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ดี “ตอนนี้ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ โดยนโยบายของสำนักงานกปร. จะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้านการตลาดต่อผลผลิตของเกษตรกร เราจึงพัฒนาระบบปศุสัตว์อย่างครบวงจร ให้ศูนย์เรียนรู้ฯ ดำเนินการและขยายผลสู่เกษตรกรรายอื่นๆ ที่สนใจ เมื่อได้สัตว์ที่ได้มาตรฐานก็ส่งเข้ามายังศูนย์ภูพานฯ ทำการแปรรูปที่โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ของงานปศุสัตว์ เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้แก่เกษตรกรและแก้ไขปัญหาด้านการตลาด ตอนนี้ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯได้สร้างโรงงานสาธิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านปศุสัตว์ ปัจจุบันมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านปศุสัตว์ทั้งหมด 14 ชนิดสินค้า และได้รับเลขที่จดแจ้งมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย. เรียบร้อยแล้ว”

ส่วน ดาบตำรวจปัญญา ประชาชิต เกษตรกรศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ บ้านนาขาม ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า มีความสนใจด้านปศุสัตว์จึงเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับงานปศุสัตว์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ พร้อมได้รับปัจจัยการผลิตเบื้องต้นมา เช่น พันธุ์สัตว์ ซึ่งเป็นโคดำภูพาน พันธุ์หญ้า เพื่อนำมาปลูกเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ความรู้และวิธีการจัดการพื้นที่ทั้งแบบปิดและเปิดในการเลี้ยงสัตว์ ตลอดถึงแหล่งอาหารสัตว์สำรอง เพราะสัตว์ทุกชนิดต้องมีอาหารที่ดีกินทุกวัน

“การเลี้ยงสัตว์ที่สำคัญคือ ต้องได้มาตรฐานฟาร์มที่ดี จะมีคณะกรรมการมาตรวจอย่างต่อเนื่องตามวงรอบของการเลี้ยง เมื่อโคโตเต็มที่ก็ส่งขายให้สหกรณ์ เพื่อจำหน่ายต่อไป ตอนนี้มีเกษตรกรเดินทางมาดูงานและสนใจกิจกรรมด้านปศุสัตว์เพิ่มมากขึ้น ด้วยพระบารมีปกเกล้าจริงๆ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ได้พระราชทานศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ แห่งนี้ เราได้รับทั้งความรู้ ได้รับความสำเร็จ รวมทั้งการสนับสนุนทั้งปัจจัยการผลิต และอะไรต่างๆ อีกมาก ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องสืบสานกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานให้คงอยู่ตลอดไป” ดาบตำรวจปัญญา ประชาชิต กล่าว

สำหรับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จัดตั้งเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร โดยมีภารกิจหลักคือการพัฒนาระบบชลประทานพัฒนาระบบการปลูกพืชเศรษฐกิจ การศึกษาระบบนิเวศวิทยาของป่า การปรับปรุงบำรุงดินพัฒนา ส่งเสริมด้านปศุสัตว์ ด้านการประมง ด้านพืช และการส่งเสริมอาชีพ เป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จภายใต้แนวคิด “สร้างน้ำ เพิ่มป่า พัฒนาชีวิต ที่พอเพียง”