วันที่ 11 พ.ย.67 ที่ห้องประชุม Mt Tea ชั้น 1 โรงแรมซินนามอน (Cinnamon Hotel Bangkok) ซ.วิภาวดีรังสิต 42 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. น.ส. นภัสวรรณ จิรเจริญเวศน์ หรือ มาดามฮวงจุ้ย ในนามของ บริษัท เจริญเวศน์อินเตอร์ บิสิเนส จำกัด พร้อมนาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือทนายรณรงค์ ประธานเครือข่ายมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ชี้แจงถึงการที่ถูกพาดพิงจากรณีที่มีผู้เสียหายหลายรายเข้าเเจ้งความกับ “หมอดูฮวงจุ้ย” ชื่อดัง หลังถูกหลอกมูลค่ารวามกว่า 70 ล้านบาท
น.ส.นภัสวรรณ กล่าวพร้อมน้ำตาว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากที่มี เพจเฟซบุ๊กแห่งหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์หลังจากมีกระเเสข่าวเกี่ยวกับที่นาย นายธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ หรือ “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ซึ่งเป็นน้องชายของตนได้มีการไปหลอกลวงประชาชนจนทำให้มีผู้เสียหายหลายราย โดยออกมาชี้เเจงว่าตนนั้นไม่ส่งสินค้าให้ลูกศิษย์ ที่สั่งรูปปั้นสิงห์ไปประดับบ้านไปส่งหลังจากมีการจ่ายเงินค่ามัดจำไปแล้ว 40,000 บาท ซึ่งผ่านมา 2 ปีแล้ว ซึ่งตนขอชี้เเจงว่า ที่ผ่านมาตนไปตรวจบ้านให้กับ ลูกศิษย์เป็นจํานวนมากจนจําได้ไม่หมด แต่ทุกครั้งที่มีการสั่งจองสิงห์ตนจะรอสั่งเป็นล็อตใหญ่กับทางบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน เผื่อความคุ้มค่าในการจัดส่งมายังประเทศไทย ส่วนใหญ่ครั้งละ 20 ถึง 30 ตัว เมื่อลูกศิษย์พร้อมก็จะสามารถทักเข้ามาและตนจะจัดส่งให้ทันที
แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นไม่พบว่าลูกศิษย์คนดังกล่าวทักมาแต่อย่างใด จึงอยากฝากว่าให้ทักมา ส่วนเหตุผลที่ตนไม่ทักหาลูกศิษย์เพราะเกรงว่าจะเข้าใจผิดว่าตนไปเสนอหรือยัดเหยียดขายของ ทั้งนี้ตนมีเอกสารยืนยันเกี่ยวกับการนําเข้าสิงห์จากประเทศจีนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสิงห์ของตนพิเศษที่สั่งทําตามแบบจนออกมาเป็นสิงห์ของ “มาดามฮวงจุ้ย” เอง
ส่วนเรื่อง “ผงกระดูกผี” ไม่มีอยู่ในศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ยแต่อย่างใดและตนกับนายธนวันต์ ที่ล่าสุดถูกจับกุมนั้น เป็นพี่น้องกันจริงซึ่งตนและน้องชาย มี มุมมอง ในการทํางานหรือความคิดต่างกัน ที่ไม่เคยตรงกัน แต่ก็ไม่ได้เกลียดกันแค่ไม่พูดคุยกันเท่านั้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันว่าบริษัทเจริญเวศน์ฯ ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับบริษัทของน้องชายทั้งสิ้น ซึ่งเขาจะทําอะไรตนไม่ทราบ
น.ส.นภัสวรรณ ยังกล่าวทั้งนํ้าตาว่า เหตุที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมากทั้งที่ไม่ได้เกิดจากตนเอง ประกอบกับคุณพ่อที่ป่วยหลายโรค และล่าสุดป่วยเกี่ยวเส้นเลือดหัวใจ พร้อมฝากถึงน้องชายที่ถูกจับด้วยว่า ตนและครอบครัวเสียใจมาก แต่อย่างไรก็ตามผิดว่าไปตามผิด น้องชายต้องยอมรับผิดและดําเนินการตามกฎหมาย รวมถึงตนก็พร้อมจะให้ข้อมูลตำรวจทุกประเด็น ส่วนภรรยาและลูกของนายธนวันต์ฯ ตนรับปากจะดูแลอย่างดีที่สุด
ด้านนาย รณณรงค์ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางน.ส.นภัสวรรณจะมีการเดินทางไปยัง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อนําข้อมูลทุกอย่างที่มีไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตํารวจต่อไป