เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 พ.ย.67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า วันนี้มีประชุม 4 เรื่องเป็นหลัก เรื่องแรกเรื่อง น.ส.กฤษอนงค์ นักร้องเรียนหญิง ปมคลิปเสียงเรียกเงิน ในตอนนี้เนื้อหาพยานหลักฐานคืบหน้าไปเยอะแล้ว หลังจากนี้จะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มอีกสองปาก เพื่อยืนยันหลักฐาน คาดอาทิตย์นี้จะมีความชัดเจน

"เรื่องที่สองเป็นกรณีนายสามารถ นักการเมือง ขณะนี้พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงแล้ว แต่ยังรอคำสั่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล รอไทม์ไลน์ตามหลักฐานเป็นตัวตั้ง แม้ผู้เสียหายไม่อยากดำเนินคดีกับนายสามารถ แต่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรคงต้องรอดู เพราะมีคลิปเสียงเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจะเข้าข่ายความผิด ม.148 ของป.ป.ช. หรือไม่ หรือจะเป็นเรื่องกรรโชกทรัพย์ คงต้องคุยกับนักกฎหมายอีกครั้งให้ชัดเจน ส่วนกรณีแม่ของนายสามารถ จากการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังสองปี ปรากฏว่า มีเส้นเงินโอนจากบัญชีบอสพอลเข้ามากว่า 600,000 กว่าบาท กำลังตรวจสอบย้อนหลังอีกหลายปีว่ามียอดตรงไหนเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องราวร้องเรียนที่เกิดขึ้นว่า มีการนัดเคลียร์เจรจากันหรือไม่ เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้คงช่วยเหลือบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป หลังจากนี้จะเรียกแม่ของนายสามารถมาให้การ"

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของ เอก สายไหมต้องรอด ตอนนี้สอบพยานไว้มากพอสมควรแล้ว เบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนพยานเท็จขอประชุมอีกครั้งว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนมองในเจตนาเป็นหลัก หลังจากนี้ให้มันจบเป็นเรื่อง ๆ ไป ขณะที่ในส่วนเรื่องทนายตั้ม ที่น้องสาวของทนายตั้ม เอาหลักฐานของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทดิไอคอน มาประมาณ 60 กว่าคน มายื่นเป็นหลักฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 - 14 ตุลาคม 67 กำลังตรวจสอบความเสียหายจริง ว่าผู้เสียหายติดต่อ บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จริงหรือไม่

"อย่างไรก็ตาม ต้องดูเจตนารมย์เป็นหลัก ว่าช่วงที่เรียกเงิน 7.5 ล้านบาทจากบอสพอล นั้นเป็นการเข้ามาขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายเองหรือไม่ หรือเรียกไปอย่างไร และจะต้องดูว่าผู้เสียหายได้ว่าจ้างให้ทนายตั้มมาช่วยทำคดีหรือไม่ หรือเป็นค่าช่วยเหลือค่าดำเนินการอะไร ซึ่งในวันพุธนี้ (13พ.ย.67) จะมีการประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่ชมรมหรือกลุ่มที่ตั้งตนช่วยเหลือ แต่กลับเรียกทรัพย์สินของผู้เสียหาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากให้ใช้ตำรวจให้เป็นประโยชน์ เพราะตำรวจเข้ามาทำงานให้อยู่แล้ว แต่เพจหรือชมรมต่างๆที่ตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมต้องขอขอบคุณจริง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว