ชาวบ้านตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เดินหน้าสู้ร้องป.ป.ช.ประจำจังหวัดชุมพรให้ตรวจสอบจนท.รัฐการออกใบอนุญาตเปิดโรงงานผลิตแอสฟัลท์ฯชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้านในชุมชน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 พ.ย.67 นายอัมพาพันธ์ ภัทรบำรุงรัตน์ และนายพงษ์ศักดิ์ จันทร์ทับ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ทำหนังสือเอกสารหลักฐานประกอบด้วย ภาพถ่าย คลิปเสียง หนังสือประกาศกระทรวงสาธารณสุข ใบรับรองแพทย์ เป็นต้น เดินทางไปยื่นให้กับผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)ประจำจังหวัดชุมพร
โดย กล่าวเปิดเผยว่า การยื่นหนังสือร้องฯเพื่อมีความประสงค์ให้สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชุมพร ทำการสอบสวนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานผลิตแอสฟัลท์ติกคอนกรีต จำนวน 3 แห่งในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งโรงงานดังกล่าวจัดเป็นโรงงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน ตามบันทึกการตอบข้อหารือศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข เรื่อง ประกอบกิจการโรงงานผลิตแอสฟัลท์ฯตามเอกสารที่แนบมาด้วยในเอกสารร้องเรียนฯ
ในการขออนุญาตจะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์การรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่เกี่ยวข้อง พ.ศ.2561 ขณะเดียวกันในการขออนุญาตของโรงงานผสมแอสฟัลท์ติกคอนกรีตทั้ง 3 โรง ในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร มิได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เกี่ยวข้อง ผู้ร้องคือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จึงร้องมายังป.ป.ช.ประจำจังหวัดชุมพรเพื่อให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาตกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไรและเพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงต่อไป”
จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสะพลีโดยเฉพาะหมู่ 3 ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรงงานผลิตแอสฟัลท์ดังกล่าวเรื่องมลพิษทาง กลุ่มควัน กลิ่น เริ่มปะทุความเดือดร้อนของชาวบ้านสู่สาธารณะตามสื่อต่างๆตั้งแต่เมื่อวันที่วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ประมาณ 50 คน รวมตัวกันถือป้ายเพื่อแสดงถึงความเดือดร้อนบริเวณหน้าโรงงานผลิตแอสฟัลล์ตั้งอยู่ริมถนนสายสะพลี-ทุ่งวัวแล่น ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวน 3 โรงที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันสร้างปัญหาแก่ชุมชน คือกลิ่นเหม็นไหม้ยางมะตอยหรือน้ำมัน กลิ่นรุนแรงจนถึงวัด โรงเรียนศูนย์เด็กเล็กซึ่งตั้งอยู่ใน อบต.ด้วย จนทำให้ชาวบ้านเกิดภูมิแพ้ มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะเด็กและคนแก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงเข้าโรงพยาบาลไปพบแพทย์ซึ่งมีเอกสารการเจ็บป่วยยืนยัน ชาวบ้านให้โอกาสให้หน่วยงานรับผิดชอบแก้ปัญหามาหลายครั้ง จนไม่ไหวแล้ว
ต่อมาชาวบ้านทั้งหมดได้เดินทางไปทำการองค์การบริหารส่วนตำบลสะพลี ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานผลิตแอสฟัลล์ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อขอยื่นหนังสือร้องเรียนอีกครั้งให้ นายก อบต.สะพลี และปลัดฯโดยมีข้อสรุปว่าให้ทางโรงงานปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลา 15 วัน หลังจากนั้นทางโรงงานขออนุญาต อบต.ทดลองเดินเครื่องเพื่ออ้างว่าค้นหาจุดบกพร่องป้องกันการเกิดปัญหาตามที่ชาวบ้านร้องเรียน
ปรากฏว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้ที่รับผลกระทบได้ออกมารวมตัวหน้าโรงงานคัดค้านการทดลองเดือนเครื่องการผลิต เนื่องจากว่ายังมีกลิ่นรุนแรง พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่เอาโรงงานดังกล่าวแล้ว เพราะสร้างปัญหามาแล้ว ปิดปรับปรุงหลายครั้งไม่ดีขึ้นจึงร่วมกันผลักดันให้โรงงานดังกล่าวพ้นจากพื้นที่แต่ไม่เป็นผล
กระทั่งในวันนี้( 11 พ.ย.67) ตัวแทนชาวบ้านทำหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานเดินทางร้อง ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชุมพร ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ ในการขอใบอนุญาตเปิดโรงงานผลิตแอสฟัลท์ฯชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ตามที่แจ้งในหนังสือร้องเรียนข้างต้น