เบทาโกร หรือ BTG เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์แห่งแรกที่ สปป.ลาว: (จากซ้ายไปขวา) “นายบุนยอด จันทะวอน” ปลัดกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว, “นางสาวจิรัสยา พีรานนท์” อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว, “นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เบทาโกร, “นายสีปะไพ ไชสงคราม” ปลัดกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว, “นายวรวุฒิ วณิชกุลบดี” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ เบทาโกร และ “นายสุรเชษฐ์ ทองบุญล้อม” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประเทศเมียนมา และลาว ร่วมเปิดโรงงานผลิตอาหารสัตว์เบทาโกรแห่งแรกใน สปป.ลาว
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์แห่งแรกใน สปป.ลาว ภายใต้งบลงทุนกว่า 650 ล้านบาท นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์และบริหารทรัพยากร ด้วยกำลังการผลิต 108,000 ตันต่อปี มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำ รองรับดีมานด์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุน ลดการนำเข้าอาหารสัตว์จากไทย มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยอาหารที่ดีกว่า และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ สปป.ลาวให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
นายวรวุฒิ วณิชกุลบดี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า เบทาโกรในฐานะผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรชั้นนำระดับสากล เพื่อการบริโภคในประเทศและส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมา ลาว และกัมพูชา โดยกลุ่มธุรกิจต่างประเทศมุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณผลผลิตด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ผ่านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ทั้งยังบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น ครั้งนี้จึงเดินหน้าลงทุน 650 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์เบทาโกรแห่งแรกใน สปป.ลาว ที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ และได้มีการเปิดโรงงานผลิตอาหารแห่งนี้อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก “นายสีปะไพ ไชสงคราม” ปลัดกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเป็นประธานในพิธี
โดยโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร สปป.ลาว นับเป็นอีกหนึ่งโรงงานอาหารสัตว์ในต่างประเทศของบริษัทฯ สามารถผลิตอาหารสัตว์หลากหลายชนิด ทั้งสุกร ไก่ไข่ ไก่เนื้อ โดยนำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมายกระดับจัดการหลากหลายมิติ ได้แก่ 1) ระบบ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) และระบบ SAP (Systems, Applications and Products in Data Processing) นำมาใช้ในการจัดการวัตถุดิบและผลิตอาหารสัตว์ เพื่อยกระดับการผลิตให้มีความถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น 2) ระบบการบริหารจัดการโรงงาน เพื่อควบคุมและรายงานผลการผลิต (Smart Dashboard) 3) ระบบการผลิตอาหารสัตว์และการใช้สารผสมล่วงหน้า (Smart Premix) 4) ระบบการบรรจุอาหารสัตว์ที่ทันสมัย (Smart Bagging) 5) ระบบการจัดการฐานข้อมูลผลวิเคราะห์วัตถุดิบอาหารสัตว์เพื่อการควบคุมคุณภาพ (Best LIMS – Laboratory Information Management System) และ 6) ระบบการกำจัดฝุ่นและกลิ่น (Jet Filter) เพื่อลดผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ โดยการลงทุนโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร สปป.ลาว แห่งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ภายใน สปป.ลาว และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอีกด้วย
ทั้งนี้ปัจจุบันโรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร สปป.ลาว มีอัตราการเดินเครื่องอยู่ที่ 70% ของการผลิตรวม และคาดว่าจะผลิตเต็มกำลัง 100% หรือ 108,000 ตันภายในปี 2568 อีกทั้งยังมีแผนขยายกำลังการผลิตเป็น 144,000 ตันต่อปี ในปี 2570 เพื่อรองรับการขยายการผลิตปศุสัตว์และอาหารให้ครอบคลุมทั้ง สปป.ลาว และส่งออกให้กับฟาร์มเกษตรกรเครือข่ายเบทาโกรในพื้นที่ภาคอีสานตอนกลางของไทย เบทาโกร เชื่อว่าโรงงานอาหารสัตว์แห่งนี้จะยกระดับซัพพลายเชนด้านอาหารของ สปป.ลาว ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง ด้วยการผลิตที่ยั่งยืน ทั้งยังสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้ผู้คนใน สปป.ลาว มีทางเลือกในการบริโภคอาหารที่ดี มีคุณภาพ ตรงนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาและปรับปรุงระบบเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารใน สปป.ลาว ให้มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตลอดจนเป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังต่างประเทศในอนาคตต่อไป” นายวรวุฒิ กล่าว