เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.ว่า ตนไป 2 วัตถุประสงค์คือ ไปตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพเรือ และสอบถามเรื่องราวต่างๆ จากคนที่ดูแลทางทะเลและทางบก กับฝ่ายที่เป็นข้าราชการ ฝ่ายปกครอง ทั้งนายอำเภอและผู้บริหารท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงทางสถานีตำรวจ ซึ่งสบายใจได้ว่าทางกองปฏิบัติการชายแดนบริเวณนั้นมีความแข็งแรง เข้มแข็ง การดูแลนั้นยืนยันว่า จะปกป้องดินแดนบริเวณเกาะกูด ไม่ยอมเสียผืนแผ่นดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
ตรงนี้เป็นการยืนยันให้ทุกคนสบายใจ เพราะข่าวที่ออกมามันสับสน ยืนยันว่า กองทัพเรือเรายังสามารถดำเนินการและปกป้องอธิปไตยบริเวณเกาะกูดได้อย่างไม่มีปัญหา และจากการสอบถามความสัมพันธ์ของนายทหารที่ดูแลของทั้งสองประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดี และฝ่ายนั้นยอมรับแล้วว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของประเทศไทย ส่วนเรื่องของเอ็มโอยูที่จะมีการคุยกัน ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับดินแดน เป็นเพียงเรื่องของการดำเนินการในเรื่องที่ยังไม่เข้าใจกันหรือยังไม่มีข้อสรุปร่วมกัน โดยจะเป็นกรอบที่จะหารือร่วมกันต่อไป ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2515 มีการคุยกันเรื่องนี้ต่อเนื่องตลอดมา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์นักท่องเที่ยวที่เกาะกูดนั้น ดีขึ้น ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ โรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว ยอดจองโรงแรมหายไป 30% แต่หลังจากมีการทำความเข้าใจก็ดีขึ้น แต่ปกตินักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยมีบางส่วนที่ไม่มั่นใจว่า การที่มีปัญหาดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ แต่จากการทำความเข้าใจแล้วเขาก็เข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นที่น่าเป็นปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพื้นที่ได้สะท้อนอะไรมาบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ ชาวกัมพูชาที่เข้ามาก็ถือพาสปอร์ตเข้ามา โดยการขอทางกระทรวงแรงงานในการเข้ามาทำงานในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีอยู่ประมาณไม่กี่ร้อยคน นอกนั้นเป็นคนไทย
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะจบอย่างไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว เพราะอีกฝ่ายยังออกมากระทุ้งในเรื่องนี้อยู่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็จบตามกระบวนการ ฝ่ายที่ออกมากระทุ้งก็กระทุ้งไป เพราะเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นจริง เราพยายามที่จะชี้แจง ซึ่งประเด็นนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่เราจำเป็นต้องมีคณะกรรมการตามกรอบที่กำหนด ถ้าได้รับฟังฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ดูแลอยู่ รวมถึงนายทหารที่ดูแลอยู่ ก็เข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอธิปไตย ดังนั้น การที่จะไปพูดอะไรอย่างไรก็คงไม่มีความหมายอะไร สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า จะจัดสรรที่ดินหรือการที่จะแบ่งแยกอย่างไรในการเจรจาก็ต้องรอดูผลการเจรจาก่อน อย่าใช้จินตนาการมาพูดจนกลายเป็นปัญหาไป มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และไม่เป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นที่ต่างประเทศมีต่อเรา
เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการฝ่ายไทยจะชัดเจนเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯเคยพูดว่า จะมีความชัดเจนหลังจากนายกฯกลับมา ถ้าดำเนินการได้ก็จะดำเนินการ แต่หากยังติดขัดอะไรก็ต้องรอ ทั้งนี้ หากนายกฯกลับมาเชื่อว่าทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังเตรียมการเรื่องนี้อยู่ และเท่าที่ดูเราพยายามเปิดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาเป็นคณะกรรมการด้วยให้มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่รู้ทุกๆ ด้าน เช่น กรมอุทกศาสตร์ หรือทางฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล คณะกรรมการกฤษฎีกา ตนคิดว่า รอดูตอนออกมาก่อน ขอให้ทุกฝ่ายได้ทำงานดีกว่า และไปดูเรื่องอื่นดีกว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย อย่าไปพูดให้มันเป็นประเด็น โดยที่ไม่มีมูลเหตุที่จะเป็นประเด็นได้เลย ทั้งนี้ขอย้ำว่า เรื่องนี้จะต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเพื่อเสนอให้นายกฯนำเข้า ครม.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะทำให้การทำงานของคณะกรรมการเจทีซีลำบากขึ้นหรือไม่ และทำให้การเจรจาสะดุดอีกครั้งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ยืดเยื้อและไม่สะดุดแน่นอน เพราะในระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นเสียงเดียวหรือสองเสียงก็สามารถแสดงออกได้ เพียงแต่ต้องดูเสียงส่วนใหญ่และผลประโยชน์ของประเทศ อย่าให้คนเพียงไม่กี่คนหรือบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ โดยรัฐบาลจะพยายามชี้แจงให้เข้าใจ อย่าให้เป็นประเด็นที่จะมาขัดกับปัญหาของประเทศที่ควรจะต้องแก้ไข
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าประชาชนบางส่วนยังไม่ไว้วางใจรัฐบาลเท่าที่ควร นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า ประชาชนส่วนไหน เพราะก็มีไม่กี่ส่วนนี่แหละ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เกาะกูดเขายังรู้สึกไม่ดีเลยว่า ทำไมมาพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเขารู้สึกว่า มันกระทบกระเทือนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ฉะนั้น รอให้มันมีกิจกรรมหรือมีผลของการเจรจาออกมาก่อน ซึ่งคิดว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร จากนั้นค่อยมาถกเถียงกันดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายภูมิธรรม ได้กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “เรื่องนี้จบได้แล้วครับ ไปเรื่องอื่นๆ”
เมื่อถามย้ำว่า ล่าสุดมีข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการดีลลับกับสมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีดีลลับอะไรทั้งนั้น คนไม่มีบทบาท ไม่มีหน้าที่จะเข้าไปดีลลับได้อย่างไร คณะกรรมการยังไม่ตั้งเลย ก็ต้องรอคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายคุยกัน ซึ่งคณะกรรมการก็มาจากหลายส่วน