เมื่อวันที่ 10 พ.ย.67 "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "บทเรียนที่คนไทยได้จากเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ 2024" กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,118 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567 สรุปผลได้ ดังนี้
1.ความรู้สึกของคนไทยที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อันดับ 1 เฉยๆ 53.13% อันดับ 2 ดีใจ 46.87%
2.การที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง อันดับ 1 มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับไทย 62.82% อันดับ 2 มีการพัฒนาความร่วมมือทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 54.24% อันดับ 3 ส่งเสริมประชาธิปไตยและความร่วมมือทางการเมือง 47.11% อันดับ 4 มีการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและเงินทุน 42.24% อันดับ 5 การท่องเที่ยวและข้อจำกัดด้านวีซ่าที่อาจเพิ่มขึ้น 39.53%
3.สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อันดับ 1 ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมือง 59.17% อันดับ 2 เห็นบทบาทและอิทธิพลของสื่อในการเลือกตั้ง 56.12% อันดับ 3 ได้รับรู้ถึงความสำคัญของนโยบายต่างประเทศที่มีต่อโลก 52.88% อันดับ 4 เข้าใจระบบการเลือกตั้งของสหรัฐฯ มากขึ้น 49.64% อันดับ 5 การพูดแสดงวิสัยทัศน์และการปราศรัยให้น่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญ 44.06%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า คนไทยมีท่าทีเป็นกลางต่อผลการเลือกตั้ง โดยสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทย การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นบทเรียนที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการยอมรับผลการเลือกตั้ง กระบวนการที่โปร่งใส และอิทธิพลของสื่อที่ขับเคลื่อนกระแสสังคม ทั้งนี้ ผลโพลที่สูสีตลอดช่วงเลือกตั้งยังสะท้อนว่า ความเห็นของผู้คนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยแวดล้อมและช่วงเวลา ผลลัพธ์ที่คาดการณ์ทำได้ยากยิ่งขึ้น
ด้าน รศ.ดร.รุ่งภพ คงฤทธิ์ระจัน รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต อธิบายว่าความรู้สึกร่วมของคนไทยต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ผลสำรวจออกมา 53.13% อาจมาจากสาเหตุในระยะ 4 ปีที่ผ่านมาบทบาทของสหรัฐฯ ต่อไทยไม่ได้ถูกนำเสนอมากจนทำให้คนไทยรู้สึกว่าสหรัฐฯ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อไทยอย่างไร แต่ก็ได้มีการแสดงความเห็นว่าเมื่อโดนัล ทรัมป์ เข้ามาเป็นประธานาธิบดีครั้งนี้แล้ว ไทยคงต้องเผชิญกับภาวะทางเศรษฐกิจที่มาจากอิทธิพลของสหรัฐฯถึง 62.82% ซึ่งคาดการณ์ว่าผลกระทบหลัก คือ มาตรการภาษีการค้าระหว่างประเทศที่โดนัล ทรัมป์ ต้องการจะปกป้องอุตสาหกรรมหลักของประเทศตนเองเป็นอันดับแรก ซึ่งกระทบการส่งออกหลักของไทยไปสหรัฐฯ ประการที่สองคือ สินค้าจีนจะทะลักเข้าไทยมากขึ้น เนื่องจากถูกสหรัฐฯกีดกันทางการค้า ส่งผลให้ไทยกลายเป็นตลาดระบายสินค้าจีน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทย