หลังมี พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหน่วยทหารรักษาพระองค์ 63 หน่วย  ทั้ง ทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ และหน่วยทหารในพระองค์ อีก4 หน่วย  มีผลตั้งแต่ 1 พย. 2567  กองทัพบก  และ กองบัญชาการกองทัพไทย ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง สภาพของ ทบ. จึงกลายมาเป็น ทหารคอเขียว ส่วนใหญ่ ที่ล้อม กองทัพภาค1  กองทัพภาคเดียว ที่เป็นทหารคอแดง

จากนี้ จะมีแค่ ทหารในกองทัพภาค1 เท่านั้น ที่เป็นทหารคอแดง ต่อไป โดยมี “บิ๊กใหญ่” พล.ท.อมฤต  บุญสุยา  แม่ทัพภาค1  เป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 แทน ผบ.ทบ. 

โดยยังมี บิ๊กไก่ พลโท วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพน้อย1   เป็นพลโท  คอแดง อีกคน  และยังเป็นแคนดิเดท ชิง แม่ทัพภาค1 และ ผบ.ทบ. ในอนาคต  ในฐานะ แกนนำ ตท.28   ที่จะขึ้น ไป ทัน พลโท อมฤต  ตอนอยู่ใน 5 เสือทบ. ด้วยกัน

รวมทั้ง นายทหารดาวรุ่ง ทบ. ก็ยังเป็นทหารคอแดง อยู่ใน กองทัพภาค1 ทั้ง “รองกอล์ฟ” พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองแม่ทัพภาค 1 และ “รองแอ้ม” พล.ต.ณัฐเดช  จันทรางศุ รองแม่ทัพน้อย1 แกนนำ ตท.28 ที่ รอชิง แม่ทัพภาค1และ ชิง ผบ.ทบ. ในอนาคต เช่นกัน

ขณะที่ นายพลคอแดง ดาวรุ่งทั้ง  “ผบ.ซัน” พล.ต.กิตติ ประพิตรไพศาล ผบ.พล.1 รอ. “ผบ.เบญ” พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา  ผบ.พล.ร.2 รอ. “ผบ.ด้วง” พล.ต.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์  ผบ.มทบ.11  ที่จะเติบโต ขึ้นมา ใน เจนเนอเรชัน ต่อไป ส่วน นายทหารที่อยู่นอกหน่วยรักษาพระองค์ ในกองทัพภาค1 หรือ พ้นจาก กองทัพภาค1 จะต้องพ้นจากการเป็น นายทหารคอแดง  กลับสู่การเป็นทหารคอเขียวด้วย

ตั้งแต่ “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์  ผบ.ทบ.  ที่ต้องกลายร่าง จาก ผบ.ทบ.คอแดง มา 1 เดือน  กลับมาเป็นทหารคอเขียว  ตั้งแต่ 1 พ.ย.2567 เป็นต้นมา ถือเป็น ผบ.ทบ. คนแรก ในรอบ 7 ปี ที่ ไม่ได้เป็นผบ.ฉก.ทม.รอ.904  และ ไม่ต้องเป็นทหารคอแดง ในที่สุด รวมทั้ง “บิ๊กรุ่ง” พล.อ.ชิษณุพงษ์  รอดศิริ  ผช.ผบ.ทบ.  และอดีต แม่ทัพภาค1 ที่เป็นทหารคอแดง  ก็ต้องแปลงร่าง กลับมาเป็นทหารคอเขียว รวมทั้ง นายพล อีกหลายคน ที่อยู่ นอก กองทัพภาค1 และ ฉก.ทม.รอ.905

รวมถึง “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี  ที่เป็น ผบ.ทหารสูงสุด  คอแดง มา 1 ปี  ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็น ทหารคอเขียว  เช่นกัน  ที่จะเป็น สัญญาณชี้ชัดว่า  ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไป  ไม่ต้องเป็นทหารคอแดง อีกต่อไป  หลังเคยมี มาแล้ว 2 คน คือ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์  และ มา พล.อ.ทรงวิทย์

นอกจากนี้ยังมี “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ธราพงศ์ มะละคำ ผช.ผบ.ทบ.คอแดง ที่ข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม  ก็จ่อเป็น ปลัดกลาโหม คนต่อไป ใน ตค.2568 ที่จะเป็นทหารคอเขียว ตามเดิม  จากที่ก่อนหน้านี้ เคยกังวล กันว่า พล.อ.ธราพงศ์  เป็นทหารคอแดง  จะทำให้ ปลัดกห.ต้อง คอแดง หรือไม่  แต่ในที่สุด ก็ชัดเจนแล้วว่า  กลายร่าง มาเป็น ทหารคอเขียว กันหมด

ที่ต้องจับตามองคือในจำนวน 63 หน่วยรักษาพระองค์ ไม่มี กรมรบพิเศษที่ 3 ที่เคยมีคำว่า รักษาพระองค์ (รอ.) อีกต่อไป ทหารรบพิเศษกรมนี้ จะไม่ต้องสวมเสื้อยืดคอแดง ด้านในยูนิฟอร์ม อีกต่อไปแล้ว แต่จะมีแต่ หมวกเบเรต์ แดง ตามสไตล์ รบพิเศษ ตามเดิม เท่านั้น

นายทหารที่พ้นจาก ฉก.ทม.รอ.904  จะต้องถอด เสื้อยืดขาวคอขลิบแดง  ด้านในออกต้องถอด อาร์มติดแขนของ กองพลรักษาพระองค์  ออก พร้อมเครื่องหมายต่างๆ  รวมทั้ง เครื่องแบบ  ที่ต้องกลับมาใส่เช่นที่ ทหารคอเขียว ทั่วไปสวมใส่  เปลี่ยน จากหมวกแก๊ป หมวกโมฬี ในชุดพระราชฐาน ทม.รอ. มาเป็นหมวกหม้อตาล และ หมวกเบเรต์ดำ แทน

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลง ปรับโครงสร้าง ฉก. ทม.รอ.904  ส่งผลเปลี่ยนแปลง โดยตรง กับ บก.ทัพไทย  ที่ต่อไป ผบ.ทหารสูงสุด  เป็นทหารคอเขียว และทำให้ ทหารคอเขียวใน ทัพไทย ที่เป็นดาวรุ่ง  จะได้ชิงเก้าอี้ ผบ ทหารสูงสุด ได้ตามเดิม จากที่เคยจะต้อง เป็นทหารคอแดง

ส่วน ทร. และ ทอ. ยังคงมี แค่ ในส่วนของ กรมนักเรียนนายเรือและนายเรืออากาศฯ    ทหารนาวิกโยธิน และ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน  เท่านั้น ที่เป็นทหารคอแดง ต่อไป ตามเดิม

แต่ที่ต้องจับตา คือ กองทัพบก  ที่แม้จะปลดล็อค ปม ทหารคอแดง และทหารคอเขียว แล้วก็ตาม  แต่ โอกาส ที่ ผบ.ทบ. ยังจะมาจาก ทหารที่(เคย) คอแดง  ต่อไป เช่นเดิม  เพราะส่วนใหญ่ จะมาจาก  แม่ทัพภาค1  มากกว่า มาจาก แม่ทัพภาค 2-3-4 หรือ ผบ.นสศ.

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้น  จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ในเรื่องการแต่งเครื่องแบบ เท่านั้น    แต่ความพิเศษ ของทหารคอแดง ในทบ. ยังคง ไม่แตกต่าง

แต่สะท้อนถึงความพยายาม ของ คีย์แมน ใน และนอกกองทัพ ในการลดปัญหา ของ นายทหารคอเขียว ที่รู้สึกเสียเปรียบ ทหารคอแดง

และเป็นผลพวงจากศึกภายใน  คีย์แมน คอแดง นอก ทบ.  ในเรื่องอำนาจ และการจัดวาง ตัวนายทหาร ที่จะขึ้นมาคุมอำนาจ ทบ.

ในยุคที่ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ เป็น ผบ.ทบ.  ที่มีการจัดโผโยกย้ายทหาร  แบบปลดแอก ทบ. ออกจาก  ฉก.ทม.รอ.904  ได้สำเร็จ  จนทำให้มีแรงกระเพื่อม ในการเปลี่ยนแปลง ฉก.ทม.รอ. 904 นั่นเอง

ดังนั้นย่อมต้องมีภาคต่อตามมา