วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานกกต.ชี้แจงกรณีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ท้วงติงแผนการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของกกต.ที่เห็นชอบให้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ว่าอาจกระทบต่อความสะดวกของพี่น้องประชาชนในการไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง โดย1. การกำหนดวันเลือกตั้ง กรณีครบวาระที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ปกติกกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ของสัปดาห์สุดท้ายก่อนครบ 45 วัน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ วันสุดท้ายตรงกับวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.68 จึงทำให้ไม่เหลือระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ สุ่มเสียงกับการจัดการเลือกตั้งเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68
และเหตุที่กกต.ไม่กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค. 68 เนื่องจากต้องมีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 76 จังหวัดใหม่ และมีระยะเวลา ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับประชาชนและหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงขั้นตอนที่กกต.ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร การวินิจฉัยสิทธิผู้สมัคร และในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 90,000 กว่าหน่วยที่ต้องส่งหีบบัตรเลือกตั้งไปสถานที่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด หากเกินระยะเวลาดังกล่าว อาจจะไม่ต้องด้วยพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562
2. การพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัครระหว่างวันที่ 23 - 27ธ.ค.67 ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องตรวจสอบคุณสมบัติและ ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งภายใน 7 วันนับแต่วันปิดรับสมัครคือภายในวันที่3 ม.ค.68 หากผู้สมัครผู้ใดไม่มีชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ภายใน 3 วันนับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัครคือภายในวันที่ 6 ม.ค.68) ตามมาตรา 52 และมาตรา 55 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ให้ยื่นคำร้องต่อ กกต. โดยให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็น ผู้รับคำร้อง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งพิจารณาคำร้อง พยานหลักฐาน หรือ ความปรากฏว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเสนอความเห็นให้ กกต. มีคำวินิจฉัยโดยเร็ว
และตามมาตรา 56 กรณีความปรากฎหรือได้รับแจ้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน ว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งให้ กกต. วินิจฉัยให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน ดังนั้นถ้ากำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.68 จะมีระยะเวลาพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 9 วัน คือวันที่7 - 15 ม.ค.68แต่การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 จะมีระยะเวลาพิจารณา สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 15 วัน คือวันที่7 - 21 ม.ค.68 ในการพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กกต. ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานระหว่างผู้ร้องและผู้ถูกร้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม
3. กรณีห่วงว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำงานโรงงาน หรือบริษัทเอกชนไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ได้นั้นประเด็นนี้ กกต.จะมีหนังสือประสานไปยังสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้า จังหวัด นายจ้าง สถานประกอบกิจการ และส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่ เพื่ออนุญาตและอำนวยความสะดวก ให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 โดยไม่ถือเป็นวันลา - วันหยุด ตามมาตรา 117 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562
ทั้งนี้การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 สำนักงานกกต. สำนักงานกกต.ประจำจังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะได้มีการประชาสัมพันธ์และเชิญชวน ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างทั่วถึง รวมถึงขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคีเครือข่าย ร่วมรณรงค์การเลือกตั้งในครั้งนี้