น้ำมันปาล์มไทยขึ้นราคา ส่งผลกระทบพ่อค้าขายปาท่องโก๋เดือดร้อน เพราะยังขายราคาเดิมตัวละ 2 บาท วอนรัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มอย่าให้ขึ้นราคาไปมากกว่านี้พ่อค้าจะอยู่ไม่ได้

    วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 นายสนั่น –นางสุมาลี พวงแก้ว อายุ 63 ปี สองสามีภรรยาที่ยึดอาชีพทอดปาท่องโก๋ขายมานานกว่า 12 ปี บริเวณถนนเตาอิฐ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งลูกค้าเจ้าประจำที่มาซื้อไปขายที่ร้านขายกาแฟในช่วงเช้า ปรกติจะออกมาทอดปาท่องโก๋ขายตั้งแต่เวลา 03.30 น.ทุกวัน

    โดยปาท่องโก๋ทอด สองสามีภรรยาช่วยกันทำ นายสนั่น จะเป็นคนปั้นแป้งและบิดเป็นเกลียวลงกระทะทอด ส่วนนางสุมาลีก็ทำหน้าที่ทอด คอยใช้ตะเกียบพลิกกลับปาท่องโก๋ในกระทะเพื่อให้สุกทั่วตัวและกรอบนอกนุ่มใน มีความอร่อยในตัวอยู่แล้วเนื่องจากทำขายมานานกว่า 12 ปี ทั้งแบบเป็นเกลียวและเป็นแบบซาลาเปา จนเป็นที่รู้จักของชาวเมืองสงขลาเป็นอย่างดี หากจะกินปาท่องโก๋ทอดร้อนๆในตอนเช้าก็ต้องมาซื้อตรงนี้เท่านั้น โดยขายตัวละ 2 บาท ทั้งแบบเป็นเกลียวและแบบซาลาเปา ลูกค้าเจ้าประจำและขาจรแวะเวียนมาอุดหนุนตั้งแต่ยังไม่สว่าง จนทำแทบไม่ทัน รวมทั้งต้องทอดปาท่องโก๋เตรียมส่งให้ลูกค้าเจ้าประจำที่มาซื้อไปขายที่ร้านกาแฟในช่วงเช้าอีกด้วย

    นายสนั่น  พวงแก้ว กล่าวว่า น้ำมันปาล์มขึ้นราคามีผลกระทบมากเลย ฝากถึงรัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มให้หน่อย อย่าให้ราคาน้ำมันปาล์มขึ้นเยอะ มันเดือดร้อนอยู่ไม่ได้อีก เพราะน้ำมันปาล์มจะขึ้นเท่าไหร่ แต่เราก็ยังขายปาท่องโก๋ราคาเดิม ตัวละ 2 บาทเหมือนเดิม ตอนนี้ที่ใช้น้ำมันปาล์มอยู่วันละประมาณกว่า 10 กิโลกรัม ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 56-58 บาทเมื่อก่อน 50 บาทต้นๆประมาณนั้น อันนี้เป็นน้ำมันปาล์มแท้ๆของไทยเรา ถามว่าทำไมไม่ใช้น้ำมันปาล์มมาเลเซียซึ่งราคาถูกกว่า ดูแล้วน้ำมันปาล์มมาเลเซียมันไม่บริสุทธิ์ ของไทยเราดีกว่า รัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มให้หน่อย อย่าให้มันขึ้นเยอะไป