เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยสามารถคว่ำ นางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้สำเร็จ

โดย ทรัมป์ ได้กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐแล้ว คาดว่าจะได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 276 เสียง เกินกว่าระดับ 270 เสียงสำหรับการเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เพียง 223 เสียง

นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีแนวโน้มกวาดชัยชนะทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยขณะนี้มีรายงานว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว โดยมีอยู่ 52 เสียง เกินกว่าระดับ 50 เสียงที่จำเป็นในการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 42 เสียง ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ขณะนี้พรรครีพับลิกันได้รับ 204 เสียง ใกล้ระดับ 218 เสียงสำหรับการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 182 เสียง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับชัยชนะของ ทรัมป์ ในครั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ได้สรุปว่ามาจากปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนของ "อีลอน มัสก์" ที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์หาเสียงให้กับทีมงานของนายทรัมป์ โดยได้ประกาศให้เงินทุนมากกว่า 119 ล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุน America PAC ของนายทรัมป์ พร้อมกับการเสนอแจกเช็ค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งใน 7 รัฐสมรภูมิ ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ที่ลงชื่อในคำร้องสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการครอบครองอาวุธปืน

นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม X ยังได้ปลดล็อกอนุญาตให้กลุ่มขวาจัดสามารถกลับมาเปิดบัญชีการใช้งานหลังจากถูกแบนก่อนหน้านี้ ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวกลับมามีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ และสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อนายทรัมป์ ขณะที่เผยแพร่ข้อความโจมตีนางแฮร์ริส

เหตุการณ์ลอบสังหาร "ทรัมป์" ถึง 2 ครั้ง ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สร้างขวัญและกำลังใจต่อกลุ่มผู้สนับสนุนเขา รวมทั้งเรียกคะแนนความเห็นใจจากผู้ที่มองว่านายทรัมป์ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำของรัฐที่มีเป้าหมายกำจัดเขา

ด้านกลยุทธ์แนวทางหาเสียงที่แหวกแนวและติดดิน โดยทีมงานรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ รู้จักการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยให้นายทรัมป์ใส่เสื้อกั๊กของคนขับรถขยะ และเดินไปยังรถขนขยะ ซึ่งมีการติดป้ายข้อความว่า "Make America Great Again!" โดยก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้างคนขับรถขนขยะ ก่อนเดินทางไปขึ้นเวทีหาเสียงในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ เพื่อหวังลดกระแสความไม่พอใจของกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายลาติน หลังจากที่นายโทนี ฮินช์คลิฟฟ์ นักเล่าเรื่องตลก ได้กล่าวในเวทีหาเสียงของนายทรัมป์ โดยเรียกเปอร์โตริโกว่าเป็น "เกาะขยะลอยน้ำ"

นอกจากนี้ ทีมงานหาเสียงยังสร้างภาพนายทรัมป์เป็นผู้ที่ใกล้ชิดชนชั้นกลางด้วยการให้นายทรัมป์เข้าไปเสิร์ฟอาหารในร้านแมคโดนัลด์ แม้เขาจะมีฐานะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีของสหรัฐ

อีกทั้งความไม่แน่นอนในเรื่องนโยบายของ "คามาลา แฮร์ริส" คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต แม้ว่านางแฮร์ริสได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมากในระยะแรก แต่กระแสความนิยมก็ได้ลดน้อยลง หลังจากที่มีการมองว่านางแฮร์ริสไม่สามารถสร้างความชัดเจนในการตอบคำถามต่อสื่อมวลชนในหลายประเด็น ซึ่งรวมทั้งประเด็นผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วย 


#โดนัลด์ทรัมป์ #เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ2024 #คามาลาแฮร์ริส