หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่  6 พ.ย. 2567 มาลุ้นกัน โรนัลด์ ทรัมป์ หรือ กมลา แฮร์ริส จะพิชิตชัย ...*...

มหาอำนาจโลก สหรัฐอเมริกา ได้เวลา เปลี่ยนประธานาธิบดีคนใหม่ ตามเวลาประเทศไทย เช้าวันนี้ โลกใบนี้แทบจะหยุดหมุน ลุ้นกันว่า ระหว่าง นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ตัวแทนพรรคเดโมแครต เจ้าของตำแหน่ง จะชนะคู่แข่งขัน “เสือเฒ่าคู่ปรับเก่า” นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ตัวแทนพรรครีพับลีกัลได้หรือไม่? ...*...

ได้ลุ้นกันมันหยดแหล่ะครับ เพราะ สอดรับกับผลโพลล่าสุด ก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง ให้คะแนน ของ ทรัมป์ ไล่บี้ แฮร์รีส ชนิดหายใจรดต้นคอ มีคะแนนพอๆกัน นักวิเคราะห์การเมืองอเมริกันบอก บารอน ว่า ผลการตัดสินอาจจะยืดเยื้อ ไม่มีใครยอมใคร ต้องสู้กันถึงฎีกา น่าจะ มีการฟ้องร้องกันต่อไป...*...

มองไกลไปถึงขั้น การเมืองอเมริกันชนจะรุนแรง แบ่งก๊กแบ่งเหล่าเหมือนบ้านเรา เผาบ้านเผาเมือง และสัญลักษณ์ประชาธิปไตย เผารัฐสภา และ สถานที่สำคัญๆ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี มีการเตรียมพร้อมรับมือ หรือแม้แต่ ห้างร้านค้ามีการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันการบุกทำลาย จาก กลุ่มผู้ก่อการร้าย ถือโอกาส เข้ามาขโมยทรัพย์สิน ...*...

เพื่อนคนไทยพลัดถิ่น ไปฝังตัวทำมาหากินในอเมริกาหลายรัฐยืนยันกับ บารอน เป็นเสียงเดียวกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะคู่แข่ง นางกมลา แฮร์ริส ไปในที่สุด ถึงขนาด กล้าประกาศ ว่า ผลออกมาไม่ใช่ผมเป็นประธานาธิบดี แสดงว่า ผมถูกโกง โยงไปถึงโค้งสุดท้าย คะแนนเสียง 7 รัฐ ในสวิงสเตท ปรากฎว่า ทรัมป์มีคะแนนนำแฮร์ริส ส่งผลถึง คะแนนอีเล็คตรอนโหวต ทำให้ ทรัมป์ วินเนอร์ เทค ออล ได้มากกว่า 270 คะแนน ...*...

จุดเด่น ของ ทรัมป์ คือ กล้าเลือกใช้คนเก่งๆ เหมือนอดีตผู้นำเผด็จการไทย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่เลือกใช้คนเคยขัดใจ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ ทรัมป์ ตัดสินใจอย่างกล้าหาญและท้าทายเลือก แวนซ์ ลูกชาวบ้านจนๆ อดทนสู้ชีวิตจากเด็กกำพร้า ศึกษาเล่าเรียนจนสำเร็จฮาร์วาร์ด ก้าวขึ้นเป็นผู้ว่าการรัฐ เคยต่อต้าน ทรัมป์ อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู มาเป็นคู่หู รองประธานาธิบดี ทั้งๆที่ มีผู้ขอสมัครเป็นรองประธานาธิบดีมากมายหลายคน ...*...

ว่ากันว่าหาก ทรัมป์ ชนะ ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เหมือนกับ วางตัวประธานาธิบดีคนต่อไป ในอีก 4 ปีข้างหน้าคือ รองประธานาธิบดีแวนซ์ ลูกชาวบ้านจนๆ เด็กกำพร้า ผู้มีนัยน์ตาสีฟ้า คนนี้แหละครับ...*...

แล้วก็เป็น สุพรรณวษา โชติกญาณ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ออกแถลงข่าวเรื่อง เอ็มโอยู 2544 หรือ บันทึกข้อตกลงร่วมไทย – กัมพูชา เรื่อง เจรจาผลประโยชน์ใต้ทะเลอ่าวไทย มูลค่า 20 ล้านล้านบาท อาจจะส่งผลให้ ไทยเสียดินแดนบนเกาะกูดให้กับกัมพูชา ว่า ไม่ทำให้เสียพื้นที่เกาะกูด เพราะ ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส เกาะกูด เป็นเขตของไทยชัดเจน มีอำนาจอธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ เลิกหยิบไปเป็นประเด็นการเมือง เรื่องล้มรัฐบาลกันเสียที ...*...

แม้แต่เรื่อง แผนที่ไหล่ทวีป ที่ทั้ง ไทย – กัมพูชา ต่างฝ่าย ต่างก็มีสิทธิที่จะประกาศแผนที่ไหล่ทวีปของตัวเอง ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะ ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่ง ไทย – กัมพูชา ต้องไปเจรจาตกลงกันต่อไป ที่บอกว่า สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ในปี 2552 เคยมีมติ ครม.ให้ยกเลิก เอ็มโอยู 2544 ...*...  

ข้อเท็จจริง สุพรรณวษา โชติกญาณ ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนั้นต่างหาก เป็นผู้เสนอให้ ครม.อภิสิทธิ์ยกเลิก ซึ่ง ครม.รับหลักการ แต่ ขอให้พิจารณาให้รอบคอบ หลังจากนั้น กระทรวงต่างประเทศจึงมีข้อสรุป ในปี 2557 ยังคงใช้ เอ็มโอยู 2544 น่าจะเป็นกลไกที่เหมาะสมที่สุด เลิกปลุกระดมลงถนนกันได้แล้ว ...*...

ชัดเจนครับ เกาะกูด ยังเป็นของไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เป็นประเด็นพื้นที่ทับซ้อน ที่นี่ บารอน ว่า ให้มองผลประโยชน์ทับซ้อนมากกว่า ที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องอย่าให้มีในรัฐบาลเด็ดขาด เพราะ จะเป็นจุดอ่อน ที่ จะบั่นทอนอายุรัฐบาลให้สั้น ...*...

ที่น่าจับตาอย่ากะพริบ กกต. จะหยิบคดียุบ 6 พรรคการเมือง เรื่องที่ ไปพบ ทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ค่ำวันที่ 14 สิงหาคม มาเข้าขบวนการพิจารณายุบพรรค ประสา บารอน หาข่าว จะมีการกล่าวโทษทักษิณ ชินวัตร กับ พรรคเพื่อไทย โดย ให้ทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายัง กกต. ภายในสัปดาห์นี้ ...*...  

โชคดีเป็นของ 5 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ได้รับเชิญไปบ้านจันทร์ส่องหล้า เห็นว่าจะถูกกันไว้เป็นพยาน แต่ก็ยังใช้เวลาอีกนาน กว่าจะเสร็จขั้นตอนในชั้น กกต. ยังมีเทคนิคชะลอยื้อเวลาออกไป กว่าจะไหลขึ้นไปถึงศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนและวินิจฉัย หลังปีใหม่ผ่านไปอีกหลายเดือน ...*...

 เป็นครั้งที่สอง ของ การเลื่อนพิจารณาประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ที่มี นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานสรรหา จาก วันจันทร์ที่ผ่านมา เป็น วันจันทร์หน้า ที่ 11 นี้ เห็นที ตัวเต็งจ๋า มาแรงอย่าง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ กระทรวงการคลังเสนอ แต่ มีกระแสต่อต้านแรง น่าจะเป็นปัญหา น่าจะชวดตำแหน่ง บรรทัดนี้ บารอน หาทางลงให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ถึงแม้ จะเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดก็ตาม จะไม่ยอมให้ใครมาหามลง โชว์สปิริตประกาศถอนตัวเองดีกว่าครับ

ที่มา:บารอน (6/11/67)