ชาวมาเลย์ตกเป็นเหยื่อ

ผู้เสียหายแห่แจ้งความเอาผิด "หมอดูฮวงจุ้ย" ต่อเนื่อง ล่าสุดยอดผู้เสียหายพุ่ง 25 ราย สูญเงินทะลุ 80 ล้าน มีเหยื่อชาวมาเลย์โผล่อีก 1 ราย "รอง ผบก.ป." เผยเคสนี้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง  ขณะอีกคดี เจ๊อ้อย รับเสียใจได้ยิน ทนายตั้ม อ้างว่าเงิน 39 ล้านบาท ถูกสแกมเมอร์หลอก ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังให้การกับพนักงานสอบสวนครบถ้วนทุกประเด็น

    
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 เวลา 10.40 น.  พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เปิดเผยถึงกรณี หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง ที่มีพฤติกรรมหลอกดูดวงลวงให้ทำพิธีและซื้อวัตถุมงคล แล้วไม่ได้รับของ ว่า วันนี้มีผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวรวมเเล้ว 25 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 80 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าวมีแค่โอนมาจาก สน.บางกอกน้อย ส่วนในพื้นที่อื่นๆ อีกสักพักทางเจ้าหน้าที่จะมีการโอนสำนวนคดีมายัง บก.ป. อีกทั้งยังพบว่ามีผู้เสียหายที่อยู่ในประเทศมาเลเซียอีก 1 ราย ซึ่งมีการมอบอำนาจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาแจ้งความดำเนินคดีแล้วที่ บก.ป. โดยพฤติการณ์ในการหลอกลวงนั้นจะเป็นแนวทางเดียวกันทั้งหมดเลย คือ เบื้องต้นจะมีการเชิญหมอดูรายนี้ไปที่บ้าน โรงงาน หรือสถานที่ประกอบการต่างๆ ซึ่งเมื่อไปถึงแล้ว หมอดูรายนี้ก็จะทักท้วงในจุดต่างๆ ของสถานที่และกล่าวอ้างว่าหากมีจุดนี้อยู่จะเกิดอาเพศต่างๆ เลยมีการแนะให้แก้ไขโดยทำพิธีและซื้อวัตถุมงคลต่างๆ ซึ่งหมอดูรายนี้มีพฤติกรรมดังกล่าวมา 2-3 ปี แล้ว ซึ่งผู้เสียหายบางรายมีการซื้อสินค้าไปแล้วแต่ยังไม่รับของเลย
    
พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า โดยที่มีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อหมอดูคนดังกล่าวเป็นเพราะหมอดูคนนี้มีการออกสื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งเบื้องต้นการทำผิดนี้เข้าข่ายความผิดฉ้อโกงส่วนจะเข้า ขายความผิดฉ้อโกงประชาชนหรือไม่นั้น ต้องดูว่าข้อมูลที่หมอดูรายดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไปในสื่อนั้นมีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชนที่มีภาพรวมเป็นอย่างไร และในส่วนจะเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพ์ด้วยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาตรวจสอบข้อมูลที่หมอดูเผยแพร่ทางโซเชียลว่ามีข้อมูลใดที่เป็นเท็จหรือไม่
    
ส่วนจะเชิญตัวหมอดูคนดังกล่าวมาให้ปากคำได้เมื่อไหร่นั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นขั้นตอนของการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความอยู่เรื่อยๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสืบสวนในทุกมิติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทำตามกระบวนการต่อไป
       
 สำหรับความคืบหน้าคดี นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ "เจ๊อ้อย" แจ้งความเอาผิด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ๊อ้อยได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวานนี้(5พ.ย.) โดยใช้เวลานานประมาณ 11 ชั่วโมง กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 20.50 น. เจ๊อ้อยได้เดินออกมาจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  พร้อมทักทายสื่อมวลชนที่รอรายงานข่าว โดยกล่าวสั้น ๆ ว่างดการให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม เนื่องจากได้ให้ข้อมูลครบถ้วนกับตำรวจแล้ว
    
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับกรณีที่ทนายตั้มอ้างว่าเงิน 71 ล้านบาท นั้น เป็นการให้โดยเสน่หา และเงินอีก 39 ล้านบาท เป็นถูกสแกมเมอร์หลอก เจ๊อ้อย กล่าวว่า ได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ในทุกประเด็นแล้ว และแม้ทนายตั้มจะมาปรากฏตัวในวันนี้ ก็ไม่ได้สร้างความกังวลต่อรูปคดีแต่อย่างใด
        
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกเสียใจหรือไม่กับคำพูดของทนายตั้มในวันนี้ เจ๊อ้อย ยิ้มพร้อมพยักหน้าเป็นการตอบรับ และยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนรายละเอียดของการให้ปากคำในวันนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายในการชี้แจง หลังจากนี้ยังไม่มีการนัดหมายให้มาสอบปากคำเพิ่มเติม จากนั้น เจ๊อ้อยได้ขอตัวเดินทางกลับทันที