สตูล..กรรมติดจรวด หัวขโมยสายไฟริมถนนถูกรวบคาเสาไฟฟ้าพร้อมของกลางเพียบ  ตร.เตรียมขยายผลขบวนการตระเวนลักทรัพย์ของหลวง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อกลางดึกทีผ่านมานายสามารถ พันธ์นาค  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลตันหยงโป พร้อมด้วย ผู้ช่วย ผู้ใหญ่ สารวัตร   ได้รับร้องเรียนจากทางหลวงชนบทสตูลว่า  สายไฟส่องสว่างริมข้างทางเข้าหมู่บ้านถูกคนร้ายลักตัดไปขายส่งผลให้ไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ    ทางฝ่ายปกครองหมู่  ได้ออกตระเวนตรวจที่เกิดเหตุ 

พบคนร้ายตามที่รับแจ้งกำลังก่อเหตุอยู่บนเสาไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์การขโมยที่ชำชองชำนาญการ  ทามกลางความมืดมิดมมีเพียงไฟที่หัวของคนร้ายที่กำลังลงมือก่อเหตุขโมยสายไฟฟ้า    เหตุเกิดเสาไฟฟ้าที่ 32 ถนนตันหยงโป ม.1 ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล จึงเรียกตัวให้ลงมาจากเสาไฟฟ้า  โดยเจ้าตัวยินยอมให้จับกุมโดยดีโดยยกมือขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมบอกว่าตนลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ  ถามหารถที่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางมาแต่บ่ายเบี่ยง พร้อมรับว่าตนเคยทำงานติดตั้งสายไฟฟ้าภายในอาคาร จึงมีความชำนาญในการปีนขึ้นไปตัดสายไฟให้ไฟฟ้าดับและลงมือขโมยในครั้งนี้

พร้อมประสานตำรวจสภ.เมืองสตูลภายใต้การนำโดย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฏซื่อ  ผกก.สภ.เมืองสตูล พ.ต.ท.สุวิชญ์ ภู่สถิตย์ รองผกก.ป.สภ.เมืองสตูล พ.ต.ท.ดิเรก หยงสตาร์ สวป.สภ.เมืองสตูลสั่งการให้ร.ต.อ.บุญเลิศ ยิ้มเย็น รอง สวป.สภ.เมืองสตูล  พญาวัง 20 พร้อมพวกสายตรวจหน้าเมืองร.ต.อ.ดลซอหมาด ดำท่าคลอง ร.ต.ต.รสนัน ตอหิรัญ

ร่วมจับกุมตัวชายอายุ 16 ปี  ชาว ต.ควนขัน  อ.เมือง จ.สตูล พร้อมของกลางและเตรียมขยายผลที่ทำให้เชื่อว่าไม่ได้ลงมือตระเวนลักทรัพย์สายไฟฟ้าของหลวงเพียงลำพัง   สำหรับของกลางทั้งหมดที่จับกุมได้ในครั้งนี้

1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์(ปืนปากกา)ใช้กับกระสุนขนาด.38มม.จำนวน1กระบอก  2.กระสุนปืนขนาด.38จำนวน3นัด
3.เหล็กแป้บร้อยสายไฟ1(เส้น)ยาวประมาณ2เมตร  4.คีมตัดเหล็กขนาด30นิ้ว จำนวน1ตัว  5.คีมตัดสายไฟยาว13 นิ้ว จำนวน 1ตัว  6.เลื่อยตัดเหล็กยาว16 นิ้ว จำนวน 1 ตัว  7.เข็มขัดนิรภัยสำหรับปืนเสา2อัน  8.เหล็กปืนเสา2ตัว  9.เชือกจำนวน1เส้น
10.ตะขอไว้โรยตัว1อัน  11.กระเป๋าสะพายหลังสีเทา1ใบพร้อมประแจชนิดต่างๆ 9อัน  12.กระเป๋าข้างสีเทาจำนวน1ใบ
13.ไฟฉาย1อัน  แจ้งข้อกล่าวหามีความผิด   ในที่ลักทรัพย์ของทางราชการในเวลากลางคืนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร