สตูล..ขโมยลักสายไฟอาละวาด ไฟดับทั้งสายเปลี่ยว ชาวบ้านผวาเสี่ยงภัยเดินทางยามค่ำคืน ขณะที่แขวงทางหลวงเจ้าทุกข์ 2 ปีถูกไป 4 คดีขโมยทั้งหม้อแปลง ไม่เว้นแผ่นป้ายบอกทางกว่า 3 แสนบาทรัฐถูกโจรกรรม ขึ้นป้ายเตือนภัยชาวบ้านสะท้อนมีทั้งด้านดีและไม่ดี
วันที่ 6 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณพื้นที่ หมู่ 1 ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ระยะทาง 4 ก.ม.เริ่มจากสะพานเกาะนก ถึง ท่าเรือตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล โดยสำนักงานแขวงทางหลวงสตูล สำนักงานทางหลวงที่ 18 ได้ปิดแผ่นป้ายประกาศ “ว่าขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีขโมยสายไฟฟ้าและทรัพย์สินของแขวงทางหลวงสตูลหลายรายการทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนไม่ปลอดภัยและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากผู้ใดพบเหตุผู้กระทำความผิดโปรดแจ้งตำรวจ 191 ตำรวจทางหลวง 1193 สายด่วนกรมทางหลวง 1586 แขวงทางหลวงสตูล 074772139 , พร้อมป้ายบอก “ไฟฟ้าแสงสว่างดับสายไฟถูกขโมย”
จากแผ่นป้ายดังกล่าวยิ่งสร้างความตระหนกและตกใจกับชาวบ้านผู้สัญจรไปมาเพื่อออกไปทำมาหากิน ทั้งแรงงานโรงงานที่ต้องเดินทางกลับบ้านค่ำมืด นักศึกษา นักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้าต่างกังวลว่าตนจะเกิดอะไรหรือไม่ขณะใช้เส้นทางนี้เนื่องจากเป็นเส้นทางป่าโกงกาง ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะมีหมู่บ้านป่าเพียงจุดเดียวและเป็นป่าโกงกางเกือบตลอดเส้นทาง ประกอบกับไฟฟ้าข้างทางที่เคยสว่างไสวกลับมาดับมือสนิทยิ่งสร้างความยากลำบากในการสัญจรไปมา กลัวจะมีการดักจี้ปล้นทำร้ายร่างกาย แต่ก็ต้องออกมาทำกินเพราะมีเพียงเส้นทางเดียว
นางเจ๊ะนะ เด็นหมาน อายุ 56 ปี ชาวบ้านตำบลตำมะลัง หมู่ที่ 3 ยอมรับว่า ถนนสายนี้ตั้งแต่ไฟดับน่ากลัวมาก แต่ตนต้องออกมาขายปลาในตัวเมืองตั้งแต่ตี 4 ครึ่งกลับสาย ๆ ทุกวัน อยากให้ช่วยกันอย่าให้ไฟดับเพราะมันเสี่ยงมากเราเป็นผู้หญิงที่ต้องขี่รถพ่วงมากัน เคยได้ยินข่าวว่ามีการจี้กันด้วยยิ่งน่ากลัว ส่วนป้ายเตือนให้ระวังขโมยคนร้ายก็ดีนะเรามองว่าจะได้เป็นการระวัง แต่จะให้ดีอยากให้เร่งซ่อมไฟฟ้าข้างทางจะดีกว่า
นางเจ๊ะสาลี เด็นหมาน ไกด์ชุมชนตำมะลัง บอกว่า อยากให้ไฟฟ้าติดเร็ว ๆ เพราะเส้นทางนี้มีเด็กสาวทำงานโรงงานใช้เส้นทางตลอด 24 ชม.ส่วนตนหากมีปลาก็ต้องใช้เส้นทางนี้ตั้งแต่ตี 1 ตี 2 เพื่อมาขายปลา ไฟดับแบบนี้มาเกือบเดือนแล้ว เมื่อก่อนก็มีการลักสายไฟฟ้าบ้าง แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในฐานะที่ตนเป็นไกด์ท้องถิ่นด้วย คิดว่าป้ายที่ติดตามข้างทางก็ดีนะเพราะทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวมาได้อ่านป้าย แต่ป้ายเตือนระวังขโมยคิดว่าควรจะต้องถอดออกเพราะเสียภาพลักษณ์ นักท่องเที่ยวมาดูนกอินทรีย์ต้องมาคอยระวังโจรขโมย อยากให้เอาป้ายออกและให้ตำรวจมาตระเวน 1-2 ชั่วโมงครั้งก็ยังดี หากเอาป้ายไว้เมื่อนักท่องเที่ยวถามก็ไม่อยากโกหกว่าขโมยเยอะ
นายชาตรี ปูหยัง ผญบ.หมู่ 3 บ้านตำมะลังใต้ บอกว่า ขโมยลักสายไฟฟ้าแขวงทางหลวงก็เรื่องนึง การติดป้ายก็เรื่องนึง ความเห็นส่วนตัวเห็นว่า ป้ายเตือนระวังขโมยอยากให้เอาออกเพราะเกรงว่าชาวบ้านจะตื่นตระหนักและหวาดกลัวมากกว่าเตือนภัย
ในรอบ 2 ปีนี้ อุปกรณ์งานทางของกรมทางหลวง สำนักงานทางหลวงที่ 18 ได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไปแล้ว 4 ครั้ง บนถนนหมายเลข 406 กิโลเมตรที่ 94 ถึง 750 (เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 66) หัวขโมยได้ขโมยป้ายเตือน ขนาด.60 * 75 หายจำนวน 32 แผ่น เสาป้ายคอนกรีต , จำนวน 17 ต้น (วันที่ 30 สิงหาคม 66) เส้นทางเดิม ป้ายขนาด .75 * 75 จำนวน 4 แผ่นป้ายขนาด 75 * 1.8 จำนวน 1 แผ่นป้ายขนาด 6 * 75 จำนวน 6 แผ่น (วันที่ 30 พฤษภาคม 66) หมายเลขทางหลวง 406 ที่เดิม สายไฟ 30 เมตร,หม้อแปลง และ, ครั้งที่ 4 (วันที่ 30 กันยายน 67) ที่เดิม หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่หายไปพร้อมอุปกรณ์จำนวน 1 ชุด รวมมูลค่าความเสียหาย 4 ครั้งที่ถูกโจรกรรม 329,695 บาทยังจับคนร้ายก่อเหตุไม่ได้
นายณรงค์ศักดิ์ นันทคำภิรา ผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดสตูล กล่าวว่า สิ่งที่ถูกโจรกรรมไปไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ป้ายจราจร ป้ายบังคับ ป้ายเตือน ทั้งหมดนี้คือต้องการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้ทราบว่า ต้องช่วยกันดูแลสอดส่อง แนวทางแก้ไขต้องบูรณาการแก้ไขช่วยกันดูแลสอดส่อง พร้อม ประชาสัมพันธ์ร้านรับซื้อของเก่า จะปชส.ว่าอันไหนของราชการ
เพราะสิ่งที่ตามมาคือไฟฟ้าเสียหายดับทั้งหมด 60 ดวง แขวงทางหลวงสตูลได้แก้ชั่วคราวโดยต่อไฟสายตรงมาจากตู้เซฟตี้เพื่อให้ใช้ไฟได้ชั่วคราว แต่!!เกิดเหตุซ้ำอีก โดยขณะนี้ได้มีการบูรณาการทุกฝ่ายให้ช่วยกันสอดส่อง และจัดสายตรวจช่วยจับตัวคนร้าย ที่เชื่อว่าเป็นคนวงในเกี่ยวกับไฟฟ้า เพราะมีความถนัดถึงจะมาตัดสายไปได้มาดำเนินคดีให้โดยเร็ว