"ตลท." มองเลือกตั้งสหรัฐชี้ทิศทางหุ้นไทย คาดรู้ผลชัดเจนวอลุ่มกลับมา
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตัวแทนจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ประกาศนโยบายหาเสียงที่แตกต่างกันในหลายๆด้านทำให้ผลการคาดการณ์ว่าตัวแทนจากพรรคใดจะชนะสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นโลกในระยะสั้น
ทั้งนี้ในปลายเดือนตุลาคม 2567 ผลการสำรวจการเลือกตั้งสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าคะแนนความนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ พลิกกลับมาแซงหน้านางคามาลา แฮร์ริส เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ทำให้ผู้ลงทุนมีความกังวลว่าอาจจะส่งผลให้เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจชะลอการลดดอกเบี้ยส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ส่งผลให้เริ่มเห็นสัญญาณเงินลงทุนต่างชาติเคลื่อนย้ายออกจากตลาดหุ้นเอเชีย
โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป ต้องติดตามว่าจะเกิดสงครามการค้ากับจีนหรือไม่ หรือรุนแรงแค่ไหน ซึ่งมีโอกาสที่จะมีการย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงไว้ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60% แต่ประเทศอื่นเก็บ 10% นอกจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนหรือไม่ รวมถึงการปรับตัวของภาคธุรกิจของไทย
สำหรับล่าสุดคะแนนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นำแฮร์ริส ซึ่งจากคะแนนจาก 7 Swing States นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสชนะ จะทำให้สินทรัพย์กลับทิศ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) พุ่งขึ้น เงินทุนไหลออกจากภูมิภาค ยกเว้นฟิลิปปินส์ และไต้หวัน โดยมีการโยกมาสินทรัพย์ปลอดภัย Fund Flow ออกจากภูมิภาคไหลกลับเข้าสหรัฐ อย่างไรก็ตามหากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่าอลุ่มการซื้อขายน่าจะกลับมา เริ่มลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยไทยมีจุดแข็งในกลุ่ม Health และกลุ่มความยั่งยืน มองว่ายังน่าสนใจ
#Trump #เลือกตั้งสหรัฐฯ #USElection2024 #โดนัลด์ทรัมป์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #หุ้นไทย
