สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…
เรื่อง MOU 44 ที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เล่นด้วย ตีตกคำร้องมาก่อนหน้านี้ กำลังถูกขยายผลด้วย “มุกเดิม” ปั่นคลั่งชาติขยายประเด็น เรื่องการเสียดินแดน แทนคำอธิบาย “บิ๊กอ้วน”ภู มิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงยังไงก็คงไม่มีใครฟัง กระทั่งล่าสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ ลงพื้นที่ติดตามภารกิจการดูแลความมั่นคงชายแดน ของหน่วยปฏิบัติการ “เกาะกูด” จ.ตราด เป็นสัญลักษณ์ และย้ำให้เชื่อมั่นว่า กองทัพเรือ จะดูแลอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่ …*…
แต่ไปฟังทหารเรือเก่า อย่าง พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์ อดีต เสนาธิการทหารเรือ และอดีตสมาชิกวุฒิสภา ร่อนเอกสาร ถึงกรณี พื้นที่ทับซ้อน OCA ไทย-กัมพูชา แนะแนวทางแก้ไขปัญหา 3 ข้อ “1. ในทุกกรณีไทยต้องไม่ยอมตกลงแบ่งปันทรัพยากรใดๆ กับกัมพูชาในพื้นที่ OCA 26,400 ตร.กม.นี้ แต่จะต้องเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างกันให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากไทยยอมตกลงแบ่งปันทรัพยากร ในพื้นที่ OCA ก่อนการเจรจาแบ่งเขตแดนแล้วเสร็จ เท่ากับว่าไทยกำลังเดินเข้าสู่กับดักการเสียดินแดน...*...
2. ไทยควรประกาศยกเลิก MOU44 โดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งเนิ่นนานไปไทยจะยิ่งเสียเปรียบเนื่องจากบทบัญญัติของ MOU444 นั้น สื่อความหมายว่าไทยยอมรับการประกาศเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อปี 2515 ซึ่งหมายถึงยอมรับความมีอยู่จริงและสร้างความชอบธรรมให้กับเส้นไหล่ทวีปกัมพูชาที่ลากผ่านเกาะกูดนี้ จะทำให้ไทยเสียเสียเปรียบในการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลและอาจนำไปสู่การเสียดินแดนต่อไปในอนาคต...*...
3. ไทยควรประกาศยืนยัน ไม่ยอมรับเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ประกาศเมื่อปี 2515 และเสนอให้มีการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาต่อไป โดยสามารถใช้กฎหมายทะเลตามปกติเป็นกรอบการเจรจาได้เช่นเดียวกับ ที่ไทยดำเนินการกับประเทศอื่นๆสำเร็จลุลล่วงมาแล้วเช่น มาเลเชีย และเวียดนาม เป็นต้น”...*...
อย่างไรก็ตาม เรื่อง MOU 44นั้น ผ่านรัฐประหารมาแล้วถึง 2 ครั้ง ศรพระราม ก็ยังข้องใจว่า ทำไมรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารทั้งปี 49 และ57 ถึงไม่ยกเลิก หรือเป็นเพราะรัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่มีคุณหนูจาก “ตระกูลชินวัตร” เป็นายกรัฐมนตรี ที่ผู้พ่อมีสายสัมพันธ์แน่นปึ้กกับ “ตระกูลฮุน” ของกัมพูชา จึงเกิดอาการไม่ไว้วางใจว่าจะซูเอี๋ยกัน ...*...
มีข่าวว่า ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เตรียมที่จะกลับไทย ในช่วงจังหวะที่มีข่าวคราวของ ทนายคนดัง ที่ก็รู้กันดีว่า เป็น “ศัตรู” ที่ยืนอยู่อีกฝั่งกับ “ชูวิทย์” พอดี แม้คนใกล้ชิดจะบอกว่า การกลับไทยรอบนี้เป็นเพียงการกลับมาจจัดการธุระเท่านั้น ไม่ได้เตรียมที่จะมา “แฉ” อะไร แต่ใครหลายคนก็แอบอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ โดยเฉพาะต้องไม่ลืมว่า นอกจาก “ชูวิทย์” จะเคยขุดทนายดังเรื่องพนันออนไลน์จนมีเรื่องฟ้องร้องกัน ก่อนที่ “ชูวิทย์” จะป่วยหนักและมีการถอนฟ้อง ก็ไม่แปลกที่จะถูกโฟกัสและโยงไปที่ประเด็นร้อนนี้ อีกเรื่องหนึ่งก็ต้องไม่ลืมว่า “ชูวิทย์” ไม่ได้ขุดเฉพาะเรื่องทนายดัง แต่ยังเคยออกมาโป้งเรื่อง “ดีลลับลังกาวี” ด้วย น่าสนใจๆ …*…
ที่มา:ศรพระราม (5/11/67)