"ขุนคลัง" ย้ำรัฐเร่งพิจารณามาตรการกระตุ้น ศก.ระยะสั้น แบงก์จ่อชงลดเงินนำส่ง FIDF แลกแก้หนี้

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.67 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) ในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 2.7% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้ว เป็นการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 30% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด และงบประมาณปี 2567 ที่ออกมาล่าช้า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอาจจะเน้นไปที่มาตรการกระตุ้นในระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อให้คนที่มีปัญหายังสามารถอยู่รอดได้ ส่วนมาตรการระยะปานกลาง และระยะยาวนั้นต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว

สำหรับมาตรการระยะปานกลาง และระยะยาวนั้น รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการเร่งลงทุนของภาครัฐ เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ของภาคเอกชน เช่น โครงการลงทุนด้านโลจิสติกส์ และมาตรการที่จะทำให้ต้นทุนของภาคเอกชนอยู่ในขีดความสามารถที่จะแข่งขันได้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ได้เร่งดำเนินการแล้ว ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วตามการแถลงนโยบายนั้น ต้องมาติดตามประเมินผลต่อไป ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ก็ต้องมาพิจารณาให้สอดคล้องสถานการณ์ว่าควรปรับเปลี่ยน หรือต้องใส่อะไรเข้าไปเพิ่มเติม

"การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องมานั่งถามกันทุกอาทิตย์ รัฐบาลมีหน้าที่ดูว่า ตอนนี้แต่ละส่วนเดินไปถึงไหนแล้ว ส่วนสิ่งที่เราจะต้องกระตุ้น ในความหมายคือ ที่ผ่านส่วนไหนอ่อนแอก็จำเป็นต้องเข้าไปกระตุ้น ทำอะไรที่มันรวดเร็ว เพื่อให้คนที่อยู่สามารถฟื้นและแข็งแรงในการรองรับการเติบโตในระยะปานกลาง และระยะยาวต่อไป ดังนั้นจะเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลจะทำต่อจากนี้ต้องมาคุยกันว่ามาตรการระยะสั้นมีอะไร เราต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจด้วยว่าช่วงนี้เป็นอย่างไร แล้วค่อยมาพิจารณาปรับเปลี่ยนตามรูปแบบและสถานการณ์ โดยมาตรการระยะสั้นนั้น รัฐบาลมีความพร้อมแล้ว บางเรื่องสามารถทำได้ทันที"นายพิชัยกล่าว

สำหรับมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนที่ได้มีการหารือกับสมาคมธนาคารไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปสุดท้ายอีกครั้ง โดยยอมรับว่าสถาบันการเงินมีข้อเสนอให้มีการลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จากปัจจุบันที่ 0.46% เรื่องนี้ต้องมาคุยกันอีกที ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังมองว่า ตราบใดที่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ก็พร้อมที่จะพิจารณา เมื่อสรุปแล้วก็นำเรื่องนี้ไปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนจะมีการหารืออีกเมื่อไรนั้น คงต้องรอข้อสรุปจากทุกส่วนก่อน เรื่องนี้ต้องเร่งทำให้จบโดยเร็วที่สุด

#กระตุ้นเศรษฐกิจ #คลัง #ข่าววันนี้ #หนี้ครัวเรือน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์