วันที่ 2 พ.ย.67 นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด เปิดเผยว่า วันนี้ พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทรผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อม พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการทหารนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการป้องกันจันทบุรีและตราด น.อ.ภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผบ.ฉก.นย.ตราด ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ฐานปฏิบัติการเกาะกูด (บริเวณบ้านแหลมเทียน ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะกูด) เพื่อเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจกับกำลังพลในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้บังคับบัญชาที่ต้องเดินทาลมาเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนเรื่องภารกิจอื่นๆทางยุทธศาสตร์ทางความมั่นคงหรือเรื่องอื่นๆไม่ทราบในรายละเอียด และทาง ผบ.ทร.ก็ไม่ได้เชิญฝ่ายปกครองหรือฝ่ายพลเรือนเข้าไปร่วมงานหรือประชุมในภารกิจ ซึ่งน่าจะเป็นภารกิจภายใน
สำหรับประเด็นเรื่องความเคลื่อนไหวจากกลุ่มการเมืองและกลุ่มอื่นๆ ที่มีข่าวสารมากมายเกี่ยวกับอธิปไตยของเกาะกูด และมีการเรียกร้องเรื่องเขตหรือดินแดนบางส่วนของเกาะกูดเป็นของกัมพูชานั้น นายอำเภอเกาะกูด กล่าวว่า อยากขอร้องสื่อมวลชน และนักการเมืองที่กำลังทำข่าวสารของเกาะกูดไปในทิศทางต่างๆนั้น อยากบอกว่า หยุดดีกว่า เพราะจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชาวเกาะกูด วันนี้ นักท่องเที่ยวเรือนแสนคนเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะกูดแต่ละปีหลายแสนคน และสร้างรายได้เข้าเกาะกูดนับพันล้านบาท/ปี หลังจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาวเกาะกูดบอบช้ำจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 มาแล้ว อย่าทำให้เกาะกูดได้รับความเสียหายอีกเลย
“ผมยืนยันได้เลยว่า เกาะกูด และพื้นที่ทะเลรอบเกาะกูดเป็นของประเทศไทย ตามสนธิสัญญาที่ฝรั่งเศสได้ทำไว้กว่า 100 ปีแล้ว ซึ่งเขตแดนทั้งหมดของเกาะกูด และทางทะเล ส่วนเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล หรือพื้นที่ทับซ้อนเป็นเรื่องของรัฐบาลและนักการเมือบทีทต้องรับผิกชอบและแก้ไข ผมเป็นข้าราชการไม่สามารถให้ความเห็นได้ แต่ไม่อยากให้นักการเมืองหรือกลุ่มองค์กรใดมาเคลื่อนไหวอะไรในอำเภอเกาะกูด จะทำอะไรก็ทำบนฝั่งจังหวัดตราดดีกว่า เพราะ เราต้องการให้เกาะกูดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศและพี่น้องชาวตราดและชาวเกาะกูดมากกว่า เรื่องนี้ผมขอวิงวอนแทนพี่น้องชาวเกาะกูด“
ขณะที่นายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด และชาวเกาะกูด โดยกำเนิด เปิดเผยว่า ที่ต้องเขียนข้อความและลงในโพสต์ของตนเอง เพื่อต้องการสะท้อนความรู้สึกของพี่น้องชาวเกาะกูดว่ามีความรักและหวงแหนแผ่นดินเกิดและไม่อยากให้ใครหรือนักการเมืองกลุ่มใดใช้เกาะกูดมาเป็นเสมือนตัวประกัน และอ้างอิงในเรื่องต่างๆ เพราะเกาะกูดเป็นของไทยโดยสมบูรณ์ตามสนธิสัญญาที่ฝรั่งเศสได้ทำไว้เมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา
“แผ่นดินเกาะกูตเป็นของประเทศไทย 100% เกาะกูดเป็นอำเภอหนึ่งของ จังหวัดตราดและประเทศไทย มีประชาชนชาวไทยอาศัยทำมาหากินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ปู ย่า ตายาย จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเสียแผ่นดินเกาะกูดให้กับทางกัมพูชาแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตามที่เป็นข่าว พื้นที่ทับซ้อนในทะเลที่ทรัพยากรธรรมชาติ มูลค่ามหาศาล ไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเกาะกูด สถานประกอบการ ธุรกิจที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวของเกาะกูดเรื่องนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทย ไม่ว่าพรรคไหนหรือฝ่ายไหนที่จะมาเป็นรัฐบาล ที่จะต้องดำเนินการเจรจา ผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
อนึ่ง จากประเด็นดังกล่าว อาจมีผู้นำไปเชื่อมโยงเหตุผลทางการเมืองต่าง ๆ มีทั้งเรื่องจริงบ้าง เท็จบ้าง ขอให้พี่น้องประชาชนชาวเกาะกูด รวมถึงสถานประกอบการต่าง ๆ ช่วยกันตรวจสอบดูแลอย่าให้เหตุการณ์ดังกล่าวมากระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะกูด รวมถึงการ ท่องเที่ยวของเกาะกูด เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาแผ่นดินเกาะกูด ซึ่งเป็นของประเทศไทยต่อไป "ผมรักเกาะกูด......ครับ"
นายเดชาธร กล่าวอีกว่า การเดินทางมาเกาะกูดของ ผบ.ทร.วันนี้ หากมาดีก็ไม่เป็นไร แต่หากมาแล้วนำปัญหามาให้ชาวเกาะกูดอาจจะทำให้ชาวเกาะกูดไม่พอใจ เพราะที่ผ่านมา ทหารเรือมีปัญหากับชาวเกาะกูดเรื่องที่ดินทับซ้อนของประชาชนกับทหารเรือมานานแล้ว ไม่มีการดำเนินการพิสูจน์สิทธิใดๆ ล่าช้ามานานกว่า30 ปียังไม่จบ นี่คือสิ่งที่ชาวเกาะกูดอึดอัดและอยากเรียกร้องกับฝ่ายควรมั่นคงว่าจะมีความชัดเจนเมื่อใด
ด้าน นางสาวสุพิชญ์ณัฏฐา รังเกตน์แก้ว ตัวแทนกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันที่เป็นลูกหลานคนตราด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของพื้นที่เขตแดนของเกาะกูดที่ฝ่ายไทยและจังหวัดตราดมองว่า เป็นของจังหวัดตราดและเป็นของไทยตามสนธิสัญญาของฝรั่งเศสนั้น ก็เป็นข้อเท็จจริง แต่ยังมีบางเรื่องที่ซับซ้อนและลึกซึ้งมากกว่านั้น เพราะในพื้นที่ทางทะเลฝ่มยกัมพูชาได้ขีดเส้นที่เลยเข้ามาในเกาะกูด และเรายังไม่มีการตอบโต้หรือเรียกร้องใดๆ อีกทั้งยังยอมรับและไม่คัดค้านฝั่งกัมพูชาหากมีการต่อสู้กันอาจจะทำให้ไทยเสียประโยชน์ ทางกลุ่มของเราจึงได้เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อปกป้องดินแดนของเกาะกูด ด้วยการจัดเวทีเพื่อให้ความรู้ในเรื่องนี้ ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. ณ ลานกิจกรรมสนามหลวง (ตรงข้าม ร.ร.อนุบาล) หน้าศาลากลางจังหวัดตราด