เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ คว้ารางวัลอันดับ 1 Best Entertainment Influencer Campaign จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 กับแคมเปญ #everydaymajor
นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) รับรางวัล Best Entertainment Influencer Campaign อันดับ 1 แบรนด์ที่สร้างสรรค์ผลงานแคมเปญร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ประจำปี 2024 จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ซึ่งจัดโดย บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ผู้นำด้าน Influencer Marketing และผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Tellscore ภายใต้แนวคิด "The Future is Yours!" เพื่อเชิดชูสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์และแคมเปญที่โดดเด่นที่สุดแห่งปี ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
Thailand Influencer Awards 2024 เป็นการประกาศรางวัลสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญที่ยิ่งใหญ่แห่งปี และ สุดยอดอินฟูลเอนเซอร์ โดยแบ่งรางวัลเป็น Brand & Agency Awards 27 สาขา และ Influencer Awards 33 สาขา รวมทั้งสิ้น 60 สาขา มีเกณฑ์การตัดสินใน 5 มิติ ดังนี้ 1.รูปแบบและความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) 2.ลำดับและการเล่าเรื่อง (Storytelling) 3.การเข้าถึงคนส่วนมากได้อย่างมีคุณภาพ (Impact) 4.ศักยภาพในการเติบโตและการดูแลกลุ่มผู้ฟัง (Personal Branding & Community Building) 5.สำนึกที่ดีต่อผู้ฟัง สังคม และสิ่งแวดล้อม (Social Conscience)
ทั้งนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป รับรางวัล Best Entertainment Influencer Campaign อันดับ 1 จากการนำเสนอแคมเปญ #everydaymajor ได้รับความสนใจจากอินฟูเอนเซอร์ ตั้งแต่ประเภท Nano Influencers จนถึง Mega Influencers นำเสนอผลงานร่วมแคมเปญกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มากกว่า 1,000 คนต่อเดือน ด้วยจุดเด่นของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งเป็นธุรกิจภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายของคอนเทนท์ที่จะนำเสนอและสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้อินฟลูเอนเซอร์สนใจที่จะสร้างสรรค์แคมเปญ #everydaymajor ในทุกแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียจนเกิดเป็น Word of Mouth สร้างการรับรู้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจากแคมเปญ #everydaymajor มากกว่าเดือนละ 15 ล้านครั้ง ต่อยอดสู่ยอดขายตั๋วและกระแสการมาดูหนังที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนังไทยมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนในระยะเวลา 1 ปี มีภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท อาทิ สัปเหร่อ, ธี่หยด, หลานม่า, อนงค์ และ ธี่หยด 2 ซึ่งช่วยผลักดันภาพยนตร์ไทยเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งได้ต่อไป