"ศาลฎีกา" พิพากษายืน สั่งจำคุกตลอดชีวิต "ผอ.ตุ๊" คดีฆ่า "น้องหลิว" สาวโรงงานวัย19 ทิ้งไร่อ้อย และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1.7 ล้านบาท
จากกรณี น.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือ "น้องหลิว" อายุ 19 ปี สาวโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนพบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยพบร่างไร้วิญญาณ ที่บริเวณไร่อ้อย หมู่ที่ 13 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 ตำรวจได้จับกุม นายจุมพล สุภาพงษ์ หรือ "ผอ.ตุ๊" อายุ 56 ปี ตกเป็นผู้ต้องหา ฆาตกรรม "น้องหลิว" ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา รายงานว่า ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ผู้พิพากษาขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาฎีกา คดีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องหาฆาตกรรม "น้องหลิว"สาวโรงงานวัย 19 ปี เหตุเกิดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยจำคุกตลอดชีวิตและให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1.7 ล้านบาท
คดีนี้เริ่มต้น เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน 2555 นางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือน้องหลิว อายุ 19 ปี เดินทางออกจากบ้านที่ ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อไปทำงานโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี กระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคม 2555 น้องหลิวหายตัวไปโดยจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ห้างค้าปลีกดัง สาขาคลองรั้ง ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 304
เพื่อนร่วมงานได้มาตรวจสอบที่ห้องพักยังพบเสื้อผ้าข้าวของของคนหายอยู่ในห้องเหมือนปกติ จนต่อมามีผู้ปล่อยข่าว โดยมีเบอร์แปลกส่ง sms ไปยังเพื่อนสนิทของคนหาย ว่าคนหายไปทำงานต่างประเทศ ไม่ต้องเป็นห่วง ครอบครัวได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ และพยายามตามหาด้วยตัวเอง โดยการสอบถามข่าวไปยังกลุ่มเพื่อนของคนหาย และโพสต์ตามหาในโลกออนไลน์
กระทั่งปี 2562 ทางครอบครัวเห็นว่าน้องหลิวขาดการติดต่อไปนานแล้ว และดูข่าวที่มูลนิธิกระจกเงาตามหาคนที่หายออกจากบ้านไปนาน จากการนำข้อมูลคนหายไปตรวจเทียบกับศพนิรนาม จึงพยายามอีกครั้งในการติดตามหาน้องหลิว จึงแจ้งเรื่องน้องหลิวหายตัวไปมายังมูลนิธิกระจกเงาให้ช่วยติดตาม โดยมูลนิธิกระจกเงา ได้ประสานตรวจสอบข้อมูลคนหายในระบบต่างๆไม่พบความเคลื่อนไหว และไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกประเทศ