วันที่ 31 ต.ค. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ไม่ทันในสมัยประชุมนี้ เนื่องจากยังมีเงื่อนไข ที่ทุกพรรคการเมืองไม่อยากรวมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  112 ว่า ตนกังวลถึงสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน กังวลถึงสัญญาที่เคยพูดต่อหน้าสื่อมวลชนว่า สิ่งแรกๆที่ควรจะทำคือการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องมีการทำประชามติ และการนิรโทษกรรมทางการเมือง แม้จะมีการเห็นต่างและไม่เห็นต่าง แต่ดูเหมือนว่าจะมีการประวิงเวลา มีการศึกษาแล้วศึกษาอีกโดยที่ไม่มีความจำเป็นอะไร และ สว.ก็เปลี่ยนชุดใหม่มีประธานใหม่ ยังเห็นไม่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังเป็นความไม่แน่นอนในการเมืองไทยต่อไป ตนคำนึงถึงประชาชนที่โดนลิดรอนสิทธิเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง

เมื่อถามว่า มองทางออกนี้อย่างไร เพราะขนาดแค่ร่างรายงานการศึกษาของนิรโทษกรรมยังถูกตีตก นายพิธา กล่าวว่า หากเจตจำนงของประชาชนมากพอก็มีทางออกทั้งนั้น แน่นอนว่านักการเมืองก็ดี ไม่ว่าจะเป็นสภาสูง สภาล่างไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน พูดไว้อย่างทำอีกแบบหนึ่ง คนที่เป็นประธานก็อยู่พรรคเดียวกัน และปรากฏว่าโหวตออกมาก็ไม่ตรงกับที่ญัตติตัวเองเสนอ ตนกังวลว่าคนจะรู้สึกได้ว่า มันวนไปวนมาไม่มีความชัดเจนขึ้นมา