เหมือนเล่นชักเย่อแล้วปล่อยมือ ทั้งเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือนิรโทษกรรม ที่พรรคเพื่อไทยตั้งแท่นรุกรบขั้นแตกหัก แต่พอเห็น “ควันไฟ” ก็ถอยทัพ!! ปล่อยทิ้งพลพรรคส้มไว้กลางทางเซถลาหัวทิ่ม…

ไม่ว่าจะเป็นเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กึ๊กๆกั๊กๆ ยักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก เมื่อประตูบานแรกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถเปิดได้ กับเกมแก้ไขการทำประชามติ โดยมี “ตัวแปรสำคัญ”คือ สว.สีน้ำเงิน ระยะเวลาที่เหลือของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อีก 2 ปี 7 เดือนจึงยังมองไม่เห็นฝั่ง

ไม่ว่าจะเป็นฉากสภาฯคว่ำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการศึกษาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ที่มีประเด็นละเอียดอ่อนเรื่องมาตรา 112 มี 115 มือของสส.พรรคเพื่อไทยร่วมกันโหวตไม่เห็นชอบ ยอมหักหน้าเพื่อนสส.เพื่อไทยด้วยกันเองที่เป็นเจ้าของญัตติและเป็นประธานกรรมาธิการฯ

 2 สถานการณ์ที่สะท้อนชัดว่า “เพื่อไทย” เล่นไพ่หลายหน้า เหยียบเรือหลายแคม ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อปลด “ชนวนระเบิดเวลา” รัฐบาลแพทองธาร

ตามรายงานที่อ้างว่า เบื้องลึก ฉากโหดหักดิบ ปิดทางสอดไส้นิรโทษกรรมมาตรา 112 นั้น มีบรรดา “บ้านใหญ่” พรรคเพื่อไทย เป็น เซฟตี้คัต สั่งสส.ยกมือโหวตสวน ด้วยเกรงว่า บรรยากาศขององคาพยพทางการเมืองต่างๆ อาจถูกปั่นปลุกไปสู่ความวุ่นวาย กลายเป็นเงื่อนไขสร้างความชอบธรรมให้ “รถถัง”ออกมาวิ่งบนท้องถนนอีกครั้ง

ส่วนบ้านใหญ่นั้น จะรวม “บ้านจันทร์ส่องหล้า”ด้วยหรือไม่ ก็เชื่อว่า ถ้าไม่มี “สัญญาณ” ออกมาจาก “นายใหญ่” มีหรือ สส.จะกล้ากลับลำ 360 องศาเช่นนี้

“แน่นอน ต้องไม่แตะมาตรา 112 เป็นสิ่งที่เราย้ำมาตลอด ตั้งแต่ตั้งรัฐบาล ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ทุกพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาล ก็ตกลงว่าจะไม่มีการแตะมาตรานี้ รวมทั้งหมวด 1 และหมวด 2 ในรัฐธรรมนูญด้วย” นี่คือคำประกาศของ “นายกฯอิงค์”แพทองธาร

และล่าสุดมติที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในนามพรรคเพื่อไทยในสมัยประชุมสภาหน้า ไปประกบกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 4 ฉบับที่ค้างอยู่ในสภา โดยให้ เนื้อหาส่วนใหญ่จะยึดตามรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่จะไม่มีการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 และ 112

แต่ถึงแม้จะมีปฏิบัติการ “ไอ้เสือถอย” เพื่อต่อวีซ่ารัฐบาลแพทองธารออกมา กระนั้นเมื่อห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมีกระข่าวถึงกระแส “ยุบสภา” สะพัดออกมา

 ด้วยมองกันว่า ดาบอาญาสิทธิ์ “ยุบสภา”นั้นถือเป็น ไอเทมสุดท้ายในมือของ “นายกฯอิงค์”แพทองธาร ในการที่จะปราบพยศพรรคร่วมรัฐบาลที่ “ขี่คอ” พรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ และว่ากันว่าจะเป็นการตัดไฟ “นิติสงคราม” ที่กำลังลุกลามสู่บัลลังก์นายกรัฐมนตรี ที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาล จะ “ถีบหัวเรือ” ไม่ยอมล่มหัวจมท้ายกับพรรคเพื่อไทยในเกมยุบพรรค ด้วยการดีดตัวไปอยู่ฝั่งของ “พยาน” ปมครอบงำพรรคการเมือง และรวมถึงคดีความต่างๆที่อาจกระชับเข้าไปถึงตัว ทักษิณ ชินวัตร ด้วย

แม้เบื้องลึกเบื้องหลัง ข่าวลือยุบสภามาจากความเคลื่อนไหวของ   วัน อยู่บำรุง  ขึ้นป้ายหาเสียงเตรียมตัวรองรับการเลือกตั้งซ่อม สส.กทม.เขต 28 ที่ “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน ที่ ถูกคดี ม.112 ศาลชั้นต้นลงอาญาสั่งจำคุก คดีลุกคืบหน้า ใกล้เวลาศาลอุทธรณ์จะตัดสินซึ่งอาจส่งผลให้ถูกสอย

และซ้ำด้วยการออกมาโพสต์เฟซบุ๊กของ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ระบุว่า"คาด!!! ไม่เกิน 90 วัน คงมีการประกาศยุบสภา ก่อน ศาล รธน.จะสั่งยุบพรรค 1+6 พรรคการเมือง พรรคที่จะลงสมัคร คงชื่อใหม่หลายพรรค ประชาชน คงงงกัน จำไม่ได้"

ในขณะที่บริบทการเมือง ของขั้วตรงข้าม “ทักษิณ” กลับมีเสียงกระชุ่นยั่วยุให้ “ยุบสภา”จริงๆ ด้วยเชื่อว่า เป็นจังหวะที่กระแสส้มแผ่ว!! และสามารถใช้ “พิษณุโลกโมเดล” ในการบริหารจัดการเลือกตั้งได้

สถานการณ์ดูเหมือนว่า มรสุมข่าวและแรงยุยุบสภาต่างๆ ด้อยค่า “ไพ่ในมือ”ของ “นายกฯอิงค์”

แต่หากวิเคราะห์อย่างสังเคราะห์  “เกมยุบสภา” สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น อาจได้ไม่คุ้มเสีย

ประการแรก คือ ในนิติสงคราม พวกเขาไม่อาจหนีวิบากกรรมยุบพรรคได้  จากบทเรียนสมัยที่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย แม้จะถูกปฏิวัติไปแล้ว คดียุบพรรคไทยรักไทยก็ยังเดินหน้าในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ และที่สุดก็ถูกยุบพรรค กลายมาเป็นพรรคพลังประชาชน ก่อนที่ถูกยุบซ้ำมาเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

ประการต่อมา หากยุบสภาในห้วงเวลานี้ต้องใช้เงินก้อนมหาศาล ในขณะที่จะได้ สส.กลับมาเท่าเดิมหรือน้อยกว่า ที่สำคัญจะเอาผลงานอะไรไปหาเสียงในการเลือกตั้ง แม้เงินหมื่นลอตแรกจะปล่อยออกไปแล้ว แต่เงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่วางไว้ในลอตสองยังไม่ได้ออกมา เมื่อลงไปสนามเลือกตั้งมีแต่จะตกเป็นเป้าโจมตี และมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกยุบพรรคกลางทางก่อนถึงวันเลือกตั้งอีก

แต่หากถูกยุบพรรค ก็เตรียมพรรคสำรองไปตั้งพรรคใหม่ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิก็ยังมีสส.เหลืออยู่เป็นเสียงข้างมากในพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงสถานะแกนนำ หรือแม้แต่ เปลี่ยนตัว “นายกฯอิงค์” ก็ยังเหลือ ชัยเกษ นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเหลืออีกคน หากพรรคร่วมรัฐบาลจะยกกรณีมาตรา 112 เป็นข้ออ้างไม่สนับสนุน “ชัยเกษม” และตีจาก ก็ยังมีพรรคส้มรออยู่

นั่นจึงมีรายงานว่าในความเงียบงันของ  “ทักษิณ”  กลับส่งสัญญาณให้รัฐบาลลูกสาวลุยต่อ ไม่ยุบสภา จึงไม่แปลกที่ว่า เซียนการเมืองเหยียบเมฆไร้รอย อย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน จะการันตีว่า รัฐบาลนี้จะอยู่อีกยาว!!