ต้องบอก ว่า สนามเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ในต้นปี 2568 ที่จะมาถึง เขตพื้นที่ อ.นาแก ดุเดือดแน่นอน เลือกตั้ง เที่ยวนี้ ต้องจับตา อดีตนายกชาญชัย คำจำปา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระซอง อ.นาแก ว่าที่ผู้สมัคร รองนายก อบจ.นครพนม ต้องแสดงพลัง เรียกคะแนนนิยม ของมุมแดง ฝั่งพรรคเพื่อไทย ด้วยการจัดทัพ ทีม ว่าที่ ผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้ง 3 เขต พร้อมสู้ศึก ได้ชัยชนะทุกเขต เนื่องจากเป็นเจ้าของ ฉายา เสือใต้ ถือเป็นแกนนำคนสำคัญดูแล ฐานการเมืองท้องถิ่น ของพรรคเพื่อไทย มาตลอด อีกทั้งมีหลังบ้านที่เป็นแกนนำเพื่อไทยคนสำคัญ คอยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ และมีพลังมวลชนในพื้นที่ไม่ธรรมดา คือ คุณบุษกุล ไชยต้นเทือก หรือครูอ้อย ผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษานาแก ทำให้การเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ครั้งนี้ อดีต นายกชาญชัย คำจำปา ประกาศจุดยืน อาสา นั่งรอง นายก อบจ.นครพนม สนับสนุน คนของพรรคเพื่อไทย ชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครพนม
ที่สำคัญ พรรคเพื่อไทย ได้ส่ง นายกเบียร์ อนุชิต หงษาดี อดีต นายก อบต.โพนสวรรค์ เป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม ในชื่อทีมฮักนครพนม ส่วนสิงห์ เหนือ มี นายกโว่ ดนัย สิทธิ วัชระชัย อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านแพง คอยสนับสนุน จัดทัพว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ. แกนนำฐานคะแนนเพื่อไทย สนับสนุน
ถึงแม้พรรคเพื่อไทย จะเสียเก้าอี้ ส.ส.ให้มุมน้ำเงิน คือ พรรคภูมิใจไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ได้ นายชูกัน กุลวงษา เป็น ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคภูมิใจไทย ของศึกเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา แต่เมื่อดูฐานข้อมูล การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งล่าสุด ถือว่า คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย มีคะแนนท่วมท้น จากฐานคะแนนเลือกตั้งบัตรสองใบ คือเลือกคนกับเลือกพรรค มาถึงการเลือกตั้ง อบจ. นครพนม ครั้ง นี้ เชื่อว่าหากยังมีคะแนน นิยมของพรรคเพื่อไทย สูง อีกทั้งยังมีบารมี ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ตลอดจนความนิยมของตัวผู้สมัคร โอกาสที่จะล้มแชมป์เก่า มีแน่นอน
มาดูการจัดทัพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.ของ มุมแดงฝั่งเพื่อไทย ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม เริ่มจากเขตเลือกตั้งที่ 1 วางตัว นายวัฒนา ไตรยราช หรือครูแมะ ปัจจุบัน เป็น สจ.แชมป์เก่า อดีตแกนนำครู สู้ศึก กับ นายเสน่ห์ บางทราย อดีต ส.อบจ.แชมป์เก่า เช่นกัน ปัจจุบัน นั่งตำแหน่งรองนายก อบจ.นครพนม เชื่อว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง จะลงสมัคร ส.อบจ.ล้างตา ทวงแชมป์คืน ในเขตเลือกตั้งที่ 1 หากไม่มีเปลี่ยนแปลง
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ทีมฮักนครพนม ในนามพรรคเพื่อไทย วางตัว นายกิติพงษ์ พ่อสิงห์ หรือเสี่ยเตี้ย นักการเมืองดาวรุ่ง คนสนิท อดีตนายก ชาญชัย คำจำปา ว่าที่ผู้สมัคร รองนายก อบจ.นครพนม สู้ศึกกับแชมป์ เก่า นางรัชดาภรณ์ แก้วมณีชัย หรือ สจ.กุ๊ก ทีมงานคนสนิท ส.ส.ชูกัน กุลวงษา ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคภูมิใจไทย
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 ทีมฮักนครพนม ในนามพรรคเพื่อไทย วางตัว นายนาวิน นามเรือง อดีต ส.อบจ. แชมป์เก่าหลายสมัย แต่มีการลาออกไปลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้ มีการเลือกตั้งซ่อม ได้ นายศักดิ์สิน อุดมวิทย์ไพศาล เป็น ส.อบจ. หน้าใหม่ อีกทั้งยังเป็นทีมงานของ นายก อบจ.แชมป์เก่า มุมน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทย
โดยภาพรวมส่วนใหญ่ ถึงแม้ความชัดเจน จะมีแค่ทีม ฮักนครพนม เปิดตัวสู้ศึกในนามพรรคเพื่อไทย หรือที่เรียกว่า มุมแดง แต่ในส่วนของแชมป์เก่า ถึงแม้จะไม่มีการส่งในนามพรรคภูมิใจไทย หรือมุมน้ำเงิน อย่าง เป็นทางการ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ เนื่อง จาก ปัจจุบัน นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ นายก อบจ.นครพนม แชมป์เก่า เป็นลูกสาว สหายแสง คือฝั่งน้ำเงิน หมายถึงพรรคภูมิใจไทย
ขณะที่บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ เริ่มคึกคัก ผู้สมัครลงเลือกตั้งแต่ละเบอร์เริ่มลงพื้นที่หาเสียง โดยนายพรชัย มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร เบอร์ 2 อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ ได้เปิดเวทีพบปะพี่น้องประชาชน และนำเสนอนโนบายในการทำงานต่อ โดยมีชาวบ้านจาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลนาดี เพี้ยราม กาเกาะ และตำบลตั้งใจ ร่วมรับฟังประมาณ 500 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ขณะที่นางธัญพร มุ่งเจริญพร ผู้สมัครเบอร์ 1 อดีตประธานสภา อบจ.สุรินทร์ ภรรยานายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ก็ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสดเทศบาลจอมพระ และพบปะพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลจอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โดยใช้กลยุทธเข้าถึงตัวแบบเคาะประตูบ้าน แนะนำตัว ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากชาวเทศบาลจอมพระเป็นอย่างดี
นายพรชัย มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร เบอร์ 2 กล่าวว่า เหตุที่ตนลาก่อนครบวาระ เนื่องจากต้องการสานงานต่อเพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะถ้าหากรอครบวาระ ไหนเลย 180 วัน ไม่สามารถลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชนได้ พ้นวาระมาต้องใช้เวลาเลือกตั้งอีก 2 เดือน รวมเป็น 8 เดือนแล้ว พอได้เข้ามาทำหน้าที่ต้องเตรียมการจัดตั้งสภาขึ้นมาอีก 2 เดือนรับรองอีก นั้นก็คือปัญหา ตนจึงตัดสิ้นใจลาออกเพื่อที่จะสานงานต่อไปให้ได้รวดเร็ว ส่วนกระแสการตอบรับเท่าที่ลงพื้นที่พบปะพ่อ แม่ พี่ น้อง ซึ่งก็รู้จักกันหมด เพราะตนทำงานลงพื้นที่ทั้งจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา ปัญหาของพี่น้องประชาชนเราได้รู้หมด รับทราบมาหมด พอชาวบ้านเห็นเราลงพื้นที่เพื่ออาสาที่จะทำงานต่ออีกวาระหนึ่ง ก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ด้วยมุมมองที่ว่าตนทำงานกับพี่น้องประชาชนมามาโดยตลอดระยะเวลาร่วมจะ 4 ปี ถึงจะตัดสินใจลาออกในครั้งนี้เพื่อต้องการเอาเวลามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด นี่คือเป้าหมาย
ในส่วนของกระแสที่ว่ากระกูลมุ่งเจริญพร สู้กันเองนั้น ตระกูลที่ว่าทำการเมืองมาโดยตลอด โดยตัวของตนเองไปที่ไหนๆ ตั้งแต่รู้จักการเมืองไม่เคยที่จะเอ่ยคำว่าเล่นการเมือง เพราะตนคำนึงว่าความผาสุกความเจริญของบ้านเมืองมันไม่ใช่ของเล่น มุมที่ลงมาแข่งขันกันด้วยมุมมองทางการเมืองที่อาจจะแตกต่างกัน ก็เป็นเรื่องปกติของการทำหน้าที่ของแต่ละท่าน แต่ตนคิดเสมอว่า 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงานขาดตกบกพร่องอะไร ตนก็จะนำมาต่อยอดอีกวาระหนึ่ง เพราะการเมืองระดับท้องถิ่นนี่ละที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และสามารถแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้มากกว่าการเมืองไหนๆ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ตนต้องอาสาเพื่อสานงานต่อ เพื่อส่งเสริมพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ให้ดีและเจริญยิ่งขึ้นต่อไป
ด้านนางธัญพร มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร เบอร์ 1 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ก็ได้เสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี เพราะเป็นโอกาสที่จังหวัดสุรินทร์ จะได้รับโอกาสที่ดี ส่วนที่มีคนถามว่าทำไม เบอร์ 1 และเบอร์ 2 ต้องลงมาสู้กันเองนั้น ตรงนี้ตนคิดว่าสิ่งที่ทำไปวันนี้คือมันไม่ใช่การแบ่งพรรคแบ่งพวก ใครได้หรืออะไรมันเป็นโอกาสของชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่เปิดโอกาสให้ชาวจังหวัดสุรินทร์ได้มีสิทธิเลือก เลือกคนที่เขารักและคนที่ใช่ เพื่อที่จะมาทำงานให้จังหวัดสุรินทร์ ตอนนี้ตนลงพื้นที่ได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นแล้ว โดยใช้การเดินเคาะประตูบ้าน และคงไม่มีการเปิดเวทีหาเสียง เนื่องด้วยระยะเวลาการเตรียมตัวและระยะเวลาในการเลือกตั้งมีน้อย ส่วนมากก็จะเดินตามตลาดและเดินตามชุมชน ตนคิดว่าวันนี้ชาวจังหวัดสุรินทร์ได้รับโอกาสที่ดีในการเลือกผู้นำของประชาชน วันนี้เป็นโอกาสที่ตนตั้งใจมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สุรินทร์ เพื่อพัฒนาบ้านเกิดของตนเองให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ คิดว่าจังหวัดสุรินทร์วันนี้อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้เลือก ส่วนการทำงานเราสามารถทำร่วมกันได้กับทุกภาคส่วนร่วมกัน
ทั้งนี้จังหวัดสุรินทร์มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายก อบจ.สุรินทร์ ทั้งสิ้นจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นางธัญพร มุ่งเจริญพร อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เบอร์ 1 , นายพรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ เบอร์ 2 , นางนัทธมน ศิริวัฒนวานิช อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์ เบอร์ 3 , ดร.ภัทรพล หงษ์สูง สังกัดกลุ่มรวมพลังประชาชนสุรินทร์ เบอร์ 4 , นายฉลอง สัตตรัตนามัย หรือทนายหมู สังกัดอิสระ เบอร์ 5
โดยจังหวัดสุรินทร์มีประชากร จำนวน 1,366,168 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,095,850 คน มีจำนวนหน่วยเลือกตั้ง 2,326 หน่วย