จากเหตุการณ์รางจ่ายกระแสไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีชมพูร่วง และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองล้อหลุด ทำให้เกิดความวิตกกังวลในการใช้รถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าโมโนเรลปลอดภัยหรือไม่ สู้รถไฟฟ้ารางหนักได้หรือไม่!?!
เรื่องนี้ “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม สั่งคาดโทษ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานว่า “ถ้ามีอุบัติเหตุแบบนี้จะมีบทลงโทษผู้รับสัมปทานหรือไม่ ถึงแม้ไม่มีในสัญญาการเดินรถ แต่จะมีสมุดพกว่าหากเกิดอุบัติเหตุอีกจะถูกตัดสิทธิจากการประมูลในรอบหน้า
ส่วนสาเหตุ EBM ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง เปิดเผยถึงสาเหตุว่า เกิดจากเบ้าลูกปืนล้อแตก ทำให้ล้อหลุดหล่นลงมา โดยขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้เข้าศูนย์ซ่อมบำรุงแล้ว และในส่วนของรถไฟฟ้าไม่ได้เป็นอะไร สามารถวิ่งให้บริการได้ตามปกติ
ล่าสุด “การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)” นำโดยนายสาโรจน์ ต.สุวรรณ รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) รฟม. พร้อมผู้บริหาร เยี่ยมชมโรงงาน CRRC Puzhen Alstom Transportation System Co., Ltd. (บริษัท PATS) สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและประกอบรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) พร้อมทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าโมโนเรล Wuhu Rail Transit ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในประเทศไทย
ทั้งนี้ “นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ” รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) รฟม. กล่าวว่า หลังเกิดเหตุล้อประคองหลุด รฟม.ได้มีการประสานด้านเทคนิคกับทางอัลสตรอม และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลืองมาโดยตลอด ซึ่งได้มีการดำเนินการแก้ไขและได้นำชุดล้อที่ออกแบบใหม่ติดตั้งกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จำนวน 1 ขบวน และมีการเริ่มทดสอบแล้ว ส่วนสีชมพูเพิ่งติดตั้งเสร็จ 1 ขบวน และจะเข้าสู่การทดสอบเช่นกัน
ด้าน “ผู้จัดการโรงงาน CRRC Puzhen Alstom” บอกว่า ล้อประคองของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหลุดเกิดจากหลายปัจจัย บริษัท จึงได้มีการออกแบบใหม่เพิ่มการป้องกันที่ครอบคลุมในทุกจุด ได้แก่ การปรับปรุงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปด้านในล้อประคอง, เพิ่มระบบล็อกจากเดิม เป็น 2 ชั้น, ติดเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ (Temperature Sensor) ในทุกล้อ กรณีเกิดความร้อนจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปที่ศูนย์ควบคุม โดยมาตรฐานค่าความร้อนที่ 80 องศาเซลเซียส แต่มีการตั้งค่าไว้ที่ 60 องศาเซลเซียส ก็จะมีการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์แล้วเพื่อนำรถเข้าตรวจเช็กได้ในทันที
ขณะที่ “นายณัฐภัทริ์ อุณหคงคา” ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ รฟม.กล่าวว่า การแก้ปัญหา รฟม.ร่วมกับผู้รับสัมปทานและซัปพลายเออร์ผู้ผลิตรถโมโนเรล ซึ่งได้มีการวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ล้อประคองของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหลุดพบว่าจาระบีที่เป็นตัวช่วยหล่อลื่นลดเเรงเสียดทาน มีการเปลี่ยนสี เนื่องจากเกิดความร้อนจากการหมุนของตัวล้อซึ่งเมื่อเกิดความร้อนสูงขึ้น ทำให้ชิ้นส่วนเกิดการหดหรือขยายตัว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำชุดล้อประคองที่ออกแบบใหม่มาทดสอบสายสีเหลือง 1 ขบวน และสายสีชมพู 1 ขบวน โดยจะติดตั้งชุดล้อประคองใหม่เสร็จในเดือน ต.ค. 2567 และจะมีการวิ่งทดสอบและเก็บข้อมูลประมาณ 3 เดือน หรือไปจนถึงช่วงกลางเดือน ม.ค. 2568 จากนั้นจะถอดล้อออกมาตรวจสอบด้านในหากไม่พบปัญหาใดก็จะเริ่มเปลี่ยนล้อประคองชุดใหม่กับโมโนเรลทุกตู้ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 6-9 เดือนจึงจะเปลี่ยนครบทั้งหมด
สำหรับรถไฟฟ้าโมโนเรล 1 ตู้จะมีชุดล้อประคองทั้งหมด 12 ล้อ โดย 1 ขบวน มี 4 ตู้ เท่ากับมีล้อประคอง 48 ล้อ ซึ่งสายสีชมพู มีจำนวน 42 ขบวน และสายสีเหลืองจำนวน 30 ขบวน รวมมีชุดล้อประคองทั้งหมด 3,456 ล้อ ซึ่งคาดว่าจะเปลี่ยนเสร็จหมดภายในปี 2568
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันที่รถไฟฟ้าโมโนเรล สีเหลือง-สีชมพู ยังใช้ล้อประคองแบบเดิมนั้น รฟม.มีการกำกับดูแล การให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสีเหลือง โดย รฟม.ได้กำหนดมาตรการให้ผู้รับสัมปทานดำเนินการ ซึ่งได้แจ้งแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว โดยในระยะสั้น ผู้รับสัมปทานมีการปรับแผนการดูแลบำรุงรักษา ตรวจสภาพอุปกรณ์ล้อทุกล้อ ทุกขบวนก่อนนำรถออกให้บริการ จากเดิมทุก 15 วัน เป็นทุก 1-2 วัน และมีการติดเซนเซอร์วัดอุณหภูมิแบบชั่วคราวเพื่อดูเรื่องอุณหภูมิ และในอนาคตอาจจะมีการติดตั้งกล้อง image processing บริเวณประแจสับรางช่วงออกจากเดปโป้ เพื่อมอนิเตอร์ดูระยะการเคลื่อนของตัวล้อว่ามีความผิดปกติหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบโครงสร้าง วัสดุอุปกรณ์งานโยธาต่างๆ ด้วย
นายณัฐภัทริ์ กล่าวว่า สถิติปริมาณผู้โดยสารปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ช่วงวันที่ 1-21 ต.ค. 2567 ของสายสีเหลือง เฉลี่ย 46,600 คน/วัน โดยวันธรรมดามีผู้โดยสารประมาณ 46,000 คน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยที่ 35,000 คน ส่วนสายสีชมพูเฉลี่ย 56,785 คน/วัน โดยวันธรรมดามีผู้โดยสารประมาณ 65,000 วันเสาร์-อาทิตย์ มีประมาณ 47,000-49,000 คน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อเปิดเทอมแล้วจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
หวังว่าการแก้ไขปัญหาเบ้าลูกปืนล้อแตก ทำให้ล้อหลุดหล่นลงมา จะไม่เกิดขึ้นอีก!!!
เพราะความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ!!!