วันที่ 30 ต.ค.67  ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ เริ่มคึกคัก ผู้สมัครลงเลือกตั้งแต่ละเบอร์เริ่มลงพื้นที่หาเสียง โดยในช่วงเช้าที่หอประชุมโรงเรียนนาดีวิทยา ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายพรชัย มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร เบอร์ 2 อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ ได้เปิดเวทีพบปะพี่น้องประชาชน และนำเสนอนโนบายในการทำงานต่อ โดยมีชาวบ้านจาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลนาดี เพี้ยราม กาเกาะ และตำบลตั้งใจ ร่วมรับฟังประมาณ 500 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก 

ขณะที่ช่วงบ่าย 4 โมง นางธัญพร มุ่งเจริญพร ผู้สมัครเบอร์ 1 อดีตประธานสภา อบจ.สุรินทร์ ภรรยานายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ก็ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสดเทศบาลจอมพระ และพบปะพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลจอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โดยใช้กลยุทธเข้าถึงตัวแบบเคาะประตูบ้าน แนะนำตัว ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากชาวเทศบาลจอมพระเป็นอย่างดี 

นายพรชัย มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร เบอร์ 2 กล่าวว่า เหตุที่ตนลาก่อนครบวาระ เนื่องจากต้องการสานงานต่อเพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะถ้าหากรอครบวาระ ไหนเลย 180 วัน ไม่สามารถลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชนได้ พ้นวาระมาต้องใช้เวลาเลือกตั้งอีก 2 เดือน รวมเป็น 8 เดือนแล้ว พอได้เข้ามาทำหน้าที่ต้องเตรียมการจัดตั้งสภาขึ้นมาอีก 2 เดือนรับรองอีก นั้นก็คือปัญหา ตนจึงตัดสิ้นใจลาออกเพื่อที่จะสานงานต่อไปให้ได้รวดเร็ว ส่วนกระแสการตอบรับเท่าที่ลงพื้นที่พบปะพ่อ แม่ พี่ น้อง ซึ่งก็รู้จักกันหมด เพราะตนทำงานลงพื้นที่ทั้งจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา ปัญหาของพี่น้องประชาชนเราได้รู้หมด รับทราบมาหมด พอชาวบ้านเห็นเราลงพื้นที่เพื่ออาสาที่จะทำงานต่ออีกวาระหนึ่ง ก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ด้วยมุมมองที่ว่าตนทำงานกับพี่น้องประชาชนมามาโดยตลอดระยะเวลาร่วมจะ 4 ปี ถึงจะตัดสินใจลาออกในครั้งนี้เพื่อต้องการเอาเวลามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด นี่คือเป้าหมาย 

ในส่วนของกระแสที่ว่ากระกูลมุ่งเจริญพร สู้กันเองนั้น ด้วยมุมมองทางการเมืองที่อาจจะแตกต่างกัน ก็เป็นเรื่องปกติของการทำหน้าที่ของแต่ละท่าน แต่ตนคิดเสมอว่า 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงานขาดตกบกพร่องอะไร ตนก็จะนำมาต่อยอดอีกวาระหนึ่ง เพราะการเมืองระดับท้องถิ่นนี่ละที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และสามารถแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้มากกว่าการเมืองไหนๆ และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ตนต้องอาสาเพื่อสานงานต่อ เพื่อส่งเสริมพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ให้ดีและเจริญยิ่งขึ้นต่อไป 

ด้านนางธัญพร มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร เบอร์ 1 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ก็ได้เสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี เพราะเป็นโอกาสที่จังหวัดสุรินทร์ จะได้รับโอกาสที่ดี ส่วนที่มีคนถามว่าทำไม เบอร์ 1 และเบอร์ 2 ต้องลงมาสู้กันเองนั้น ตรงนี้ตนคิดว่าสิ่งที่ทำไปวันนี้คือมันไม่ใช่การแบ่งพรรคแบ่งพวก ใครได้หรืออะไรมันเป็นโอกาสของชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่เปิดโอกาสให้ชาวจังหวัดสุรินทร์ได้มีสิทธิเลือก เลือกคนที่เขารักและคนที่ใช่ เพื่อที่จะมาทำงานให้จังหวัดสุรินทร์ ตอนนี้ตนลงพื้นที่ได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นแล้ว โดยใช้การเดินเคาะประตูบ้าน และคงไม่มีการเปิดเวทีหาเสียง เนื่องด้วยระยะเวลาการเตรียมตัวและระยะเวลาในการเลือกตั้งมีน้อย ส่วนมากก็จะเดินตามตลาดและเดินตามชุมชน ตนคิดว่าวันนี้ชาวจังหวัดสุรินทร์ได้รับโอกาสที่ดีในการเลือกผู้นำของประชาชน วันนี้เป็นโอกาสที่ตนตั้งใจมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สุรินทร์ เพื่อพัฒนาบ้านเกิดของตนเองให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ คิดว่าจังหวัดสุรินทร์วันนี้อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้เลือก ส่วนการทำงานเราสามารถทำร่วมกันได้กับทุกภาคส่วนร่วมกัน 

ทั้งนี้จังหวัดสุรินทร์มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายก อบจ.สุรินทร์ ทั้งสิ้นจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นางธัญพร มุ่งเจริญพร อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เบอร์ 1 , นายพรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ เบอร์ 2 , นางนัทธมน  ศิริวัฒนวานิช  อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์ เบอร์ 3 , ดร.ภัทรพล  หงษ์สูง สังกัดกลุ่มรวมพลังประชาชนสุรินทร์ เบอร์ 4 , นายฉลอง  สัตตรัตนามัย หรือทนายหมู สังกัดอิสระ เบอร์ 5 

โดยจังหวัดสุรินทร์มีประชากร จำนวน 1,366,168 คน(หนึ่งล้านสามแสนหกหมื่นหกพันหนึ่งร้อยหกสิบแปด) ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,095,850 คน (หนึ่งล้านเก้าหมื่นห้าพันแปดร้อยห้าสิบ) มีจำนวนหน่วยเลือกตั้ง 2,326 หน่วย