ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา ผู้ค้าตลาดแห่งหนึ่งย่านเทพประสิทธิ์ จำนวนหนึ่ง นำโดย น.ส.จารุพร อายุ 41 ปี ได้รวมตัวเดินทางมาที่เมืองพัทยา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากนายกเมืองพัทยา หลังถูกเจ้าของตลาดเอารัดเอาเปรียบ โดยมี นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เข้ารับฟังปัญหาความเดือนร้อนของผู้ค้าตลาดดังกล่าว ทั้งนี้ทางเมืองพัทยาได้ให้เจ้าหน้าที่นิติกร ดูแลงานคุ้มครองผู้บริโภคเมืองพัทยา (สคบ) รวมรับฟังปัญหาและชี้แจงแนวทางรายะเอียดขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ค้าและเจ้าของตลาด
โดย น.ส.จารุพร อายุ 41 ปี หนึ่งในผู้ค้าตลาดแห่งหนึ่งย่านเทพประสิทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางมาที่เมืองพัทยาของผู้ค้านั้นด้วยต้องการมาเรียกร้องขอความเห็นใจหลังผู้ค้าในตลาดแห่งนี้ได้รับความเดือดร้อน โดยมีข้อเรียกร้องวด้วยกัน 4 หัวข้อ คือ 1.ด้วยขณะนี้ตลาดมีการออกกฎมาสักระยะหนึ่งแล้ว หากผู้ค้าไม่มาขายสินค้าจะมีค่าปรับวันละ 1,000 บาท ซึ่งผู้ค้ามองว่าด้วยไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทหากจะหยุดขายของจะต้องนำใบรับรองแพทย์ ใบมรณะบัตร และใบต่าง ๆที่มาชี้แจงเหตุผลสาเหตุที่หยุดให้กับตลาด เพื่อจะได้ไม่ถูกปรับ ทั้งที่ผู้ค้ามีการจ่ายค่าเช่าพื้นที่ไปแล้วเป็นสัปดาห์ ซึ่งหากไม่มีความจำเป้นจริงผู้ค้าก็คงไม่หยุดขายสินค้าอย่างแน่นอน จึงอยากได้รับความเห็นใจในเรื่องนี้ 2. ตลาดมีการเพิ่มวันขายจากเดิม 3 วันในการเปิดตลาด ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ต่อสัปดาห์ มาเป็นเปิดตลอดสัปดาห์ ทั้งหากตลาดจะเปิดเพิ่มได้แต่ราคาค่าเช่าพื้นที่ในตลอด 7 วัน เท่า ๆกัน หรือใกล้เคียงกันมากที่สุด 3.เดิมที่ตลาดเปิด 3 วัน แต่ปัจจุบันเปิดขาย 7 วัน ทำให้ผู้ค้าค้าขายไม่มี เนื่องจากเป็นตลาดนัดสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งไม่เหมือนตลาดสดที่คนจะมาเดินจับจ่ายซื้อสินค้าทุกวัน แต่หากตลาดยันการจะเปิด 7 วันจริงก็ขอให้พิจารณาเรื่องค่าเช่าเท่ากันทั้ง 7 วัน และ 4.หากทางตลาดยืนยันจะเปิด 7 วัน ผู้ค้ารับได้แต่ขอให้เพิ่มเป็นเพียงวันพฤหัสบดีอีก 1 วัน แต่ขอให้จัดแบบฟูล สตรีม ในโซนพื้นที่ A B C D เหมือนกับวันฟูล สตรีม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ที่ผู้ค้าประสบอยากขอความเห็นใจและอยากเจรจาด้วยความยุติธรรมให้กับผู้ค้า
ส่วนที่เดินทางมาพบนายกเมืองพัทยาในครั้งนี้ด้วยความเดือนร้อนนี้อยู่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง ฉะนั้นสิ่งแรกที่ประชาชนและผู้คานึกถึงคือนายกเมืองพัทยา เพื่อเป็นคนกลางเรียกผู้ค้าและเจ้าของตลาดมาเจรจากัน ไกล่เกลี่ย หาทางออกร่วมกันต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ค้าได้เข้าเจรจากับเจ้าของตลาดแล้ว 4 ครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล และทั้ง 4 ครั้งก็มาเคยได้เจรจากับเจ้าของตลาดโดยตรงมีเพียงส่งตัวแทนและผู้จัดการตลาดมาเจรจา ซึ่งก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจได้ และคำตอบทุกครั้งก็ไม่สามารถหาจุดกึ่งกลางได้เลย โดยผู้ค้าที่มาในครั้งเป็นเพียงผู้ค้าส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบและยังมีผู้ค้าอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือนร้อน
ด้าน นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวภายหลังเข้ารับฟังปัญหาจากผู้ค้า ว่า ด้วยมีผู้ค้าตลาดแห่งหนึ่งเข้ามร้องเรียนว่าถูกเจ้าของตลาดเอารัดเอาเปรียบตามความรู้สึกของผู้ค้า จึงมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับเมืองพัทยา โดยได้ยื่นขอเสนอ 4 ข้อ ทั้งนี้ด้วยเมืองพัทยามีเจ้าหน้าที่ สคบ. ซึ่งอยู่ในฝ่ายกฎหมายจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ สคบ.มารับเรื่องราวร้องทุกข์กับผู้ค้า และให้ผู้ค้าทำเอกสารการร้อง ตามกระบวนการของกฎหมาย แล้วนำมายื่นที่สคบ.เมืองพัทยา ซึ่งหลังจากรับคำร้องจากผู้ค้าแล้วทางเจ้าหน้าที่สคบ.เมืองพัทยาจากนั้นจะส่งหนังสื่อไปหาเจ้าของตลาด เพื่อมาชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เมืองพัทยาพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหากเจ้าของตลาดไม่มาชี้แจงตามหนังสือเรียกจะมีความผิดตามมาตรา 45 ของกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ใด้ขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวก ไม่ให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสาร หรือหลักฐานแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการมาตร 5 ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.