วันที่ 29 ต.ค. 67 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรค พปชร. แถลงว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร. ย้ำในที่ประชุมชัดเจนให้พรรค พปชร. สส.ของพรรค และบุคลากรของพรรค ขับเคลื่อนเพื่อที่จะปกป้องอธิปไตของชาติอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะคุ้มครอง ดูแล ทรัพยากรที่เป็นของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยบอกให้เป็นงานหลักของพรรค พร้อมทั้งระบุว่า พรรค พปชร.ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในเรื่องนี้ให้ได้ โดยในวันที่ 30 ต.ค. ที่รัฐสภา ทีมงานของพรรค นำโดยตน ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี พล.ต.ท.ปิยะ จะแถลงข่าวเรื่องนี้ และจะทำการยื่นจดหมายเปิดผนึกแก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า เอ็มโอยูที่รัฐบาลจัดทำขึ้นร่วมกับประเทศอื่นนั้นมีเส้นเขตแดนที่ขัดและแย้งกับพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย โดยพระบรมราชโองการนี้ได้ใช้อนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งจัดทำ ณ กรุงเจนีวา วันที่ 29 เม.ย.1958 โดยเกาะกูดเป็นของไทย แต่ในเอ็มโอยูดังกล่าวมีเส้นของเพื่อนบ้านทับเกาะกูด เมื่อขัดกันแล้วสุ่มเสี่ยงที่ต่างประเทศจะนำไปอ้างเหมือนกับที่เราสูญเสียเขาพระวิหาร ซึ่งเรื่องนี้ไม่สมควรทำ ควรจะยกเลิก จึงจะไปยื่นนายกฯ อย่างไรก็ตาม เราจะยึดถือตามพระบรมราชโองการเมื่อปี 2516 ไม่ว่าจะถูกเหน็บแนมว่าคลั่งชาติอย่างไรก็ตาม แต่เราจะยึดตามอย่างถึงที่สุด
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในแผนที่ตามพระบรมราชโองการจะเห็นชัดเจนว่าเกาะกูดอยู่ในประเทศไทย การทำอนุสัญญาหรือเอ็มโอยูที่ใช้เวลาแค่ 44 วันเท่านั้น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หรือไม่ อย่างไร ทาง ม.ล.กรกสิวัฒน์ จะชี้แจงห้ประชาชนทราบว่าใครได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง ใครไปแต่งงานกับใครเมื่อไหร่อย่างไร