เมื่อเวลา 03.39 น. วันที่ 29 ต.ค.67 ร.ต.อ.สกุล เอี่ยมบุญลือ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะแหกโค้งพุ่งข้ามเลนพุ่งชนบ้านของชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณ 4 แยกไฟแดงชุกโดน ต.บ้านใต้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ กำลังใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวืต 2 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายออกมาจากซากรถยนต์กระบะยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาวหมายเลขทะเบียน 6219 กาญจนบุรี ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 รายกระเด็นออกมานอกรถ
ส่วนสภาพรถที่อยู่ในที่เกิดเหตุอยู่ในสภาพพุ่งชนร้านจำหน่ายอุปกรณ์ออกกำลังกาย และบ้านของชาวบ้านซึ่งอยู่ในช่องทางมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรีเสียหายไป 2 หลัง รวมทั้งขอบฟุตบาตรกลางถนนของทางราชการพังเสียหายไป 1 ช่อง เสาสัญญาณไฟเขียวไฟแดงพังไป 1 ตันทำให้วงจรไฟเขียว-ไฟแดงดับไป 2 จุด จุด 4 แยกชุกโดนที่เกิดเหตุ 1 จุด และจุด 4 แยกซอยไปรษณีย์
จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตที่ติดคาซากรถ 2 ราย ออกมานอกรถทราบชื่อ รายแรก นายวทัญญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่หมู่ 4 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม นครปฐม รายที่ 2 นายสุภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปึ อยู่หมู่ 6 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี รายที่ 3 นายปุญยวี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ทุ่งทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
อุบัติเหตุครั้งนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอีก 1 ราย ทราบชื่อนายชานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) ไม่ทราบอายุ ไม่ทราบที่อยู่ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ชีพต้องรีบนำตัวส่ง รพ.พหลพลพุหเสนา เนื่องจากอาการสาหัสมาก แพทย์ต้องรีบนำตัวเข้าห้อง ICU เพื่อช่วยเหลือชีวิตเป็นการเร่งด่วน
เบื้องต้นมีรายงานข่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บได้ไปเที่ยวที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกาญจน์แล้วเกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นในผับ คนทั้ง 4 จึงรีบขับรถหลบหนีมุ่งหน้าจะกลับบ้าน โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถกระบะคันดังกล่าวถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถไล่กวดและใช้อาวุธปืนไล่ยิงมา พอถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็น 4 แยกชุกโดน ซึ่งขณะเกิดเหตุ สัญญาณไฟเป็นไฟแดง จึงมีรถจอดติดไฟแดงอยู่เป็นจำนวนมาก ด้วยความเร็วบวกกับความแรงของรถของกลุ่มผู้ตาย ซึ่งขับหนีตายจึงพุ่งเข้าชนท้ายรถกระบะที่จอดติดไฟแดงอยู่ และรถจึงเสียหลักหมุนคว้างพุ่งข้ามเลนถนนพุ่งเข้าไปชนอัดก็อปปี้กับประตูร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายเสียหายไป 1 หลัง และรั้วประตูปากทางเข้าบ้านของชาวบ้านอีก 1 หลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนบ้านคนที่บริเวณ 4 แยกไฟเขียวไฟแดงชุกโดน มีผู้เสียชีวิตครั้งนี้ถึง 3 ราย บรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดชุกโดนที่ขายสินค้าอยู่ในตลาดตอนเช้า ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า จุดเกิดเหตุแห่ง นี้คนเมืองกาญจน์ เขาเรียกว่าโค้งมรณะ หรือโค้งร้อยศพ ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ รถชนบ้าน บาดเจ็บล้มตายมาแล้วนับไม่ถ้วน คนตายมาแล้วไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพแก้ไขอย่างไงก็ไม่ได้ผล ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรีและตำรวจภูธรกาญจนบุรี จะวางแผนแก้ไขอย่างไงก็เหมือนเดิม ทำป้ายมา.ติดเตือนก่อนถึง 4 แยกไฟแดงให้ขับชะลอรถ เพราะเป็นทางโค้ง อย่าขับรถเร็ว แม้แต่ทาสีสะท้อนแสงสีแดงเด่นชัด ก็ไม่ได้ผลอีก
มีคนเก่าแก่เกิดสมัยโบราณ ต่างเล่าลือให้ลูกๆ หลานๆ ฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอที่ตั้งอยู่ริมถนนตรง 4 แยกตรงนั้น ซึ่งเป็นศาลเก่าแก่ของเมืองกาญจน์ หากคนเมืองกาญจน์ ขับขี่รถผ่านต้องบีบแตรส่งสัญญาณทำความเคารพเจ้าแม่ตะเคียนทอง และขับชะลอความเร็วลง จึงไม่ประสบอุบัติเหตุ ส่วนคนต่างถิ่นที่ไม่รู้และไม่บีบแตรทำความเคารพเจ้าแม่ ตามความเชื่อ คงทำให้เจ้าแม่โกธร เลยดลบันดาลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยมากจนนับไม่ถ้วนแล้ว บางคนก็เรียกว่าโค้ง 100 ศพ บางคนก็เรียก โค้งมรณะจนชาวบ้านร้านค้าใกล้ 4 แยก ติดป้ายประกาศ เซ้งร้าน ประกาศขายบ้าน แล้วย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น บางรายก็นำอ่างน้ำเลี้ยงบัวขนาดใหญ่มาตั้งหน้าร้าน เพื่อป้องกันรถยนต์เสียหลักแหกโค้งพุ่งชนบ้านอยู่เป็นประจำ