วันที่ 29 ตุลาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยผลการประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 21 – 27 ตุลาคม 2567 เบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 27 ต.ค. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 28 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) ของภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคอเมริกา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.15 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นการขยายตัวด้านการเดินทางอย่างต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน
ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เป็นกลุ่มตลาดหลัก เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้วกว่า 4 ล้านคน ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 584,462 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9,320 คน หรือร้อยละ 1.62 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 83,495 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (92,517 คน) มาเลเซีย (80,873 คน) อินเดีย (38,743 คน) รัสเซีย (32,491 คน) และเกาหลีใต้ (30,862 คน) โดยนักท่องเที่ยวรัสเซีย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 9.66 ร้อยละ 5.28 และร้อยละ 4.05 ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดีย และจีน มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 2.90 และร้อยละ 0.76
สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การมีวันหยุดในเทศกาลดิวาลีในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย และสิงคโปร์ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 28 ต.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 27 ต.ค. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 28,378,473 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,325,359 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (5,660,242 คน) มาเลเซีย (4,064,278 คน) อินเดีย (1,684,703 คน) เกาหลีใต้ (1,506,923 คน) และรัสเซีย (1,267,998 คน)