สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…

ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า สภาฯ รับทราบรายงานผลการศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมือง โดยไม่มีการลงมติในส่วนของตัวรายงาน และตีตกข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวจ้องกับมาตรา 110 และ 112 …*…

แต่ที่น่าสนใจก็คือ พรรคเพื่อไทยในฐานะที่สส.เป็นเจ้าของญัตติ กลับปรากฏว่าเสียงแตกเสียเอง มีสส. เห็นชอบ 11 เสียง ไม่เห็นชอบ 115 เสียง…*…

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ชูธงพร้อมผลักดัน ล่าสุดมาทำให้เสียว แล้วเลี้ยวกลับหักมุมชนิด 180 องศาเช่นนี้ เข้าใจได้อย่างเดียวว่า มีมือที่มองไม่เห็น ส่งสัญญาณ จะเป็นใครที่ไหนไม่ได้นอกจาก คนที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”…*…

 แม้ใครจะมองว่า การเร่งเกมนิรโทษกรรมนั้น หวังให้มีผลย้อนกลับไปสู่ ตัวของ ทักษิณ ชินวัตร เองที่ก็ติดบ่วงความผิดตามมาตรา 112 ด้วย แต่ก็อาจจะส่งผลให้รัฐบาลแพทองธาร อายุสั้น…*…

 ที่สำคัญ คือ ไม่ต้องการสร้างความหวาดระแวง  จากประเด็นนิรโทษกรรม ที่มีพรรคประชาชน ร่วมหัวจมท้ายอยู่ด้วย ฉะนั้น การที่ สส.พรรคเพื่อไทย ชิ่งออกไป ก็เพื่อ “ลดความหวาดระแวง” จากกลุ่มอนุรักษ์ …*…

ส่วนผลสำรวจของนิด้าโพล ในหัวข้อ “รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งจะไปไหวไหม” จริงๆ ต้องเป็นนายกฯอิ๊งค์แล้วนะ อ่ะ ไม่เป็นไร เนื้อหาสาระสำคัญอยู่ที่ผลสำรวจ ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า รัฐบาลแพทองธารจะไปต่อได้จนครบเทอมในปี 2570 ก็ถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควร สำหรับผลสำรวจของค่ายนี้ …*…

ในผลสำรวจมีประเด็นคำถามเกี่ยวกับปัจจัยที่จะส่งผลให้รัฐบาล ไปต่อไม่ได้ พบว่า อันดับ 1 กลุ่มตัวอย่าง 34.43% ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามที่สัญญา และคาดหวัง อันดับ 2กลุ่มตัวอย่าง 32.52% ระบุว่า กลุ่มนักร้องเรียนที่พุ่งเป้าไปยังนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย อันดับ 3กลุ่มตัวอย่าง 29.47% ระบุว่า การบริหารที่ผิดพลาดของนายกฯ แพทองธาร จนนำไปสู่สถานการณ์วิกฤต อันดับ 4กลุ่มตัวอย่าง 28.85% ระบุว่า กลุ่มนักร้องเรียนที่พุ่งเป้าไปยังนายกฯ แพทองธาร และพรรคเพื่อไทย อันดับ 5 กลุ่มตัวอย่าง 19.77% ระบุว่า การบริหารงานที่ไม่ระมัดระวังจนอาจเกิดการทุจริต คอร์รัปชั่น และอันดับ 6 กลุ่มตัวอย่าง 17.25% ระบุว่า ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล …*…

เรื่องปัญหาปากท้องนั้นสำคัญที่สุด โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยพะยี่ห้อ “ทักษิณ” และแบกความหวังเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ต้องรับบทหนัก ในการทำเศรษฐกิจให้โชติช่วงชัชวาลย์ จากนโยบายเงินดิจิทัล ที่ต้องทำให้ได้ตามที่หาเสียงไว้ และผลของเงินหมื่นที่หว่านไปแล้ว ที่ต้องทะลุทะลวงสร้างพายุหมุนเศรษฐกิจ …*…

ฝีมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ในการค้ำยันรัฐบาล แต่จะผ่าน “มรสุมองค์กรอิสระ” ไปได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย เป็น “ภูมิแพ้องค์กรอิสระ” …*…

ทำ ให้มีการพูดถึง ทางออกด้วยการ “ยุบสภา” ล้มกระดานนิติสงคราม ภายใต้สถานการณ์ บีบคั้น ต่อรองให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ด้วยการเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยไม่ให้มีการ “ยุบสภา” อันมีชะตากรรมของ “ทักษิณ” และ “แพทองธาร” เป็นตัวประกัน ...*...

ที่มา:ศรพระราม (29/10/67)