วันที่ 29 ต.ค. 2567 เวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจประชาชนของนิด้าโพลที่ยังมีประชาชนอีกกว่า 57 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่ารัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบเทอม ในฐานะผู้อาวุโสทางการเมือง ประเมินว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้ ว่า ตนว่าไม่น่าจะไปสนใจอะไรประเด็นนี้ บางครั้งเวลาเลือกตั้ง โพล 85 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังไม่ใช่ สุดท้ายก็แพ้ เอาแน่เอานอนบางเรื่องบางราวไม่ได้ แต่เอาเป็นข้อมูล ให้ไว้วิพากษ์วิจารณ์กัน เป็นความสนุกสนานส่วนจะมีปัจจัยอะไรนั้น ตนมองว่าเรื่องนี้ยังไม่ต้องวิเคราะห์ เพราะว่ายังอีกนาน ยังไม่มีอะไร
เมื่อถามว่าในส่วนของการตั้งข้อสังเกตเรื่องคำร้องของพรรคเพื่อไทยที่อาจจะนำไปสู่ การยุบพรรคเพื่อไทยนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้สังคมมีข้อมูลข่าวสาร ที่สามารถแสดงออกในสังคมได้ รวมถึงมีโอกาสแสดงออกผ่านโทรทัศน์ได้เช่นกัน เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องต่าง ๆ ตรงนี้ ซึ่งตนเคยนำเสนอไว้ตั้งแต่สมัยเป็นรมว.ยุติธรรม โดยเป็นแนวคิดเรื่องกฎหมาย ลอว์ ออฟ เอฟฟิเชนซี่ แต่ไม่สำเร็จในสมัยตน ดังนั้น คำร้องหรือการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ บางครั้งการร้องเรียนไม่ได้ผิดแต่กลับทำให้กระทบความรู้สึกประชาชน ซึ่งก็จะต้องรับผิดชอบกับการกระทำ ไม่ใช่ว่าพูดไปได้เรื่อยเฉื่อย แต่จะลงโทษหรือปรับแค่ไหน แต่เมื่อทำเพื่อประโยชน์สาธารณะก็ต้องลดหย่อนผ่อนโทษ ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยทำไว้แต่ยังไม่เสร็จ
เมื่อถามว่าในส่วนของปัญหาที่พรรคร่วมรัฐบาลมักขวางนโยบายของพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนเลือกตั้ง ก็อยากจะให้ประชาชนเลือกพรรคของเราให้ได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวน สส. เพราะจะทำให้เกิดความคล่องตัว เราก็เตรียมพร้อมว่าหากมีการเลือกตั้ง เมื่อมีพรรคร่วมก็จะเป็นเช่นนี้ เหมือนกันบ้างไม่เหมือนกันบ้าง แต่สุดท้าย ก็ต้องจบไปในทิศทางเดียวกัน เป็นมาทุกยุคทุกสมัย อย่าไปตกใจว่าเป็นอะไรที่พิเศษเป็นธรรมดา ก็จะทำให้การเมืองคล่องตัวขึ้น เพราะรู้ว่าเหนือใต้ออกตกมีอะไร แต่หากเป็นพักเดียวมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ต้องระมัดระวังอะไร เป็นความสามารถที่จะต้อง ปรับให้ทันกับเกมการเมืองต่าง ๆ