ศปช.ยังคงเฝ้าระวังผลกระทบจากพายุจ่ามี" ที่เคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งด้านตอนกลางของเวียดนาม อาจส่งผลกระทบหลายจังหวัดภาคอีสาน เตือนภาคใต้ช่วง 27-29 ต.ค.ระวังดินถล่มน้ำป่าทะลัก
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.67 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช. ) เปิดเผยว่า ในช่วง 27 - 28 ต.ค.67 ยังต้องติดตามพายุโซนร้อนกำลังแรง "จ่ามี (TRAMI)" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ที่กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าใกล้ชายฝั่งทางด้านตอนกลาง (ใกล้บริเวณเมืองดานัง) ของประเทศเวียดนาม ทั้งนี้พายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย เนื่องจากยังมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมทางด้านหน้าของพายุ โดยอาจส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยมีเมฆเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง มีลมแรง โดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน (จ.สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ) ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้นในวันที่ 27 ต.ค. จากอิทธิพลของลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดเข้าหากัน
สำหรับภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค. จะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระหว่างอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ได้แก่ จ.พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง และกระบี่ เป็นต้น ด้านกรมทรัพยากรธรณี เผยข้อมูลพื้นที่ที่ต้องติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในช่วง 27-29 ต.ค. ได้แก่พื้นที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วนที่จ.เชียงราย
ส่วนวันที่ 28 ต.ค.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่จ.เชียงราย เพื่อเป็นประธานร่วมในพิธีส่งมอบพื้นที่ที่ได้รับการฟื้นฟูเยียวยาจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ณ ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ย่านตลาดการค้าสายลมจอย ไม่มีโคลนบนถนนแล้ว และบางร้านเริ่มซ่อมแซมปรับปรุงเพื่อให้กลับมาเปิดบริการได้ตามปกติแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุจ่ามีได้ปกคลุมพื้นที่จ.ยโสธรและมีฝนตกปรอยๆ ตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรที่กำลังเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวนาปีไม่สามารถที่จะเก็บเกี่ยวได้เนื่องจากพายุจ่ามีถึงแม้ว่าจะตกไม่แรงแต่ก็ทำให้ต้นข้าวที่จะเก็บเกี่ยวเกิดการชุ่มชื้นหากทำการเก็บเกี่ยวแล้วก็ไม่มีที่ตากเพราะไม่มีแสงแดดจะทำให้เมล็ดข้าวที่เก็บเกี่ยวเน่าเสียและเกิดเชื้อราได้และจะสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าวที่เกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวในขณะนี้เป็นข้าวหนักหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า"ข้าวดอ"ที่จะเก็บเกี่ยวก่อนข้าวพันธุ์อื่นๆดังนั้นในช่วงนี้เกษตรกรที่ปลูกข้าวหนักหรือข้าวดอจำเป็นต้องงดการเก็บเกี่ยวข้าวไว้ก่อนจนกว่าพายุจ่ามีจะเคลื่อนผ่านพื้นที่จังหวัดยโสธร