วันที่ 27 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้เกิดปรากฏการณ์ “น้ำเบียด-น้ำกัน” ที่บริเวณชายหาดหัวหิน จ.ประจวบฯ อีกครั้ง หลังจากที่เคยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวต่างใช้อุปกรณ์เช่น อวน แห สวิง ลงจับสัตว์ทะเลจำนวนมากที่ลอยแพขึ้นหายใจกันเต็มชายหาด ตั้งแต่บริเวณสวนหลวงราชินี 19 ไร่ ตลอดแนวไปทางหมู่หมู่บ้านเขาตะเกียบ ระยะทางราว 7 กม. นอกจากนี้ยังมีชาวประมงต่างนำเรือประมงขนาดเล็กแล่นออกไปในทะเลบริเวณชายฝั่งนำอวนตาข่ายลงไปลากปลาเข้าฝั่งได้สัตว์ทะเลเป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านแต่ละรายสามารถจับปูและปลานานาชนิดนำกลับไปประกอบอาหารที่บ้าน ส่วนปลาที่มีขนาดใหญ่หน่อยก็นำไปขาย โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติยืนถ่ายภาพแชร์ในสังคมโซเชียลด้วยความสนใจ
ด้านนางน้อย (สงวนนามสกุล) พนักงานสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง เล่าว่า ได้ทราบข่าวจากเพื่อนๆ ว่า น้ำทะเลหัวหินเบียดอีก จึงชวนครอบครัวมาจับปลาส่วนใหญ่เป็นปลากดทะเล ปลาลิ้นหมาแล้วก็ปู ปลาที่ได้จะเอาไปประกอบอาหาร ทำปลาแดดเดียว และบางส่วนก็จะแบ่งแจกให้กับญาติ ๆ
สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากเมื่อหลายวันก่อนมีฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ทำให้มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลลงสู่ทะเล จนปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “น้ำเปลี่ยนสี” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “น้ำเบียด-น้ำกัน” ส่งผลให้น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนที่น้อยลง สัตว์ทะเลจึงลอยขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ และหลังจากนี้หากไม่มีฝนตกต่อเนื่องสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับสัตว์ทะเลที่นำไปบริโภคชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีผลกระทบใด ๆ เนื่องจากมีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุกปี