จากกรณี ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาจำคุก 6 ปี 18 เดือน นายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกรวม 7 คน คดีทุจริตในการจัดซื้อถุงยังชีพ ในโครงการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุทกภัยใน จ.ปทุมธานี
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2567 ที่บ้านพักนายชาญ พวงเพ็ชร์ ย่านอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ.ปทุมธานี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนอื่นผมต้องสวัสดีพี่น้องชาวปทุมธานี ผมเป็นคนทำงานทำงานมาตลอดไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะถูกศาลชั้นต้นตัดสินให้ตนเองมีความผิด แต่ผมเชื่อว่าการทำงานมีกฎหมายรองรับ ผมคิดว่าทุกอย่างที่ผมทำมามีความโปร่งใส แต่ฝ่ายตรวจสอบคิดว่าเราไม่โปร่งใส ผมขอยืนยันกับพี่น้องชาวปทุมธานี ได้เลยว่า ผมทำงานโปร่งใสแน่นอน เพราะเมื่อปี54 นั้นเป็นปีน้ำท่วมมากที่สุดเราได้นำสิ่งของไปแจกให้กับพี่น้องประชาชน ความที่ทุกคนเป็นห่วงผมผมต้องขอขอบคุณด้วยใจจริง แรกๆก็วิตกกังวลบ้างแหละครับ ที่ผ่านมาทีมงานทุกคนทำงานด้วยความโปร่งใส ในปี54 นี่มันเป็นปีวิกฤตจริงๆน้ำท่วมในทุกพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี ทุกคนต้องการความดูแล และการบริการจากท้องถิ่น แล้วเราได้รับประกาศภัยพิบัติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เราถึงทำตามการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ หรือเจาะจง ข้าราชการทำงานกับเรานี่เขาไม่มาทำหรอกครับ ในการทำความผิดหรือทุจริต กว่าเขาจะมาเป็นราชการได้แต่ละคน ใช้เวลานานพอสมควร ระเบียบในการจัดซื้อถุงยังชีพ ทำได้ ถ้าทำไม่ได้ข้าราชการไม่ร่วมมือกับการเมืองหรอกครับ วันนี้ผมก็ยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของผมแม้ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษามาแล้วก็ตาม เราทำด้วยความโปร่งใสตามขั้นตอน วิธีการต่างๆ การซื้อทุกอย่างตรวจสอบได้ไม่ใช่ของไม่มี แล้วคนที่มารับก็คือ สจ.ผู้นำท้องถิ่น มารับของไปแจกให้พี่น้องประชาชน ก็ได้รับทุกครัวเรือน นอกจากที่เราซื้อแล้วก็ยังมีพี่น้องประชาชนมาเสริม ส่วนใหญ่คนที่เอาของมาให้เขามาแจกเอง น้อยมากที่นำมาให้เราแจก ฉะนั้น พี่น้องครับผมเองขอขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องประชาชนทุกคน เราก็จะสู้ไปตามกฎหมาย และขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
ที่ผ่านมาผมลงพื้นที่ตลอด เราไม่เคยทิ้งพื้นที่ ไปงานพบปะพี่น้องประชาชน ก็มีคำตอบกับพี่น้องประชาชนว่า ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย เราจะไม่ทิ้งพื้นที่จังหวัดปทุมธานีของเรา ไม่ว่าจะเป็นงานวัด งานบวช งานแต่ง งานมงคล งานขาวดำต่างๆ เราคิดว่าเรายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้เขาจะโจมตีเรืองทางการเมืองอย่างไร ผมไม่กังวล เราก็ทำหน้าที่ของเราเพราะว่าเรายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เราใช้ความดีมาสู้ เพราะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทราบอยู่แล้วว่าเราเป็นคนอย่างไรที่ผ่านมาถ้าเราไม่ดี เขาคงไม่เลือกเรามาเป็นนายอบจ.ปทุมธานีตั้งหลายสมัย
ตนเองเคารพศาลและกระบวนการยุติธรรม ผมใช้สิทธิของผมในการอุทธรณ์ต่อศาล ผมเป็นคนที่เคารพศาลมาตั้งแต่ต้น มาศาลผมก็มา ผมไม่เคยหนีศาล ไม่เคยเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะผมต้องการทำตัวอย่างหลักนิติรัฐให้คนเห็น ว่าถ้าคนยอมรับหลักนิติรัฐแล้วทุกอย่างแก้ปัญหาได้ เพราะว่าคดีผมยังมีอุทธรณ์และฎีกาต่อ และผมก็เชื่อว่าในการอุทธรณ์ของผมนั้นจะมีผลที่ดีขึ้น นายชาญกล่าวทิ้งท้าย