ศึกพระสงฆ์ วัย 68 ปี ก่อเหตุฟันแขนโยมขาดอ้างเป็นหนังคนละม้วน ยันหวั่นโยมทำร้ายก่อน เชื่อมาทำทีขุดจิ้งหรีด หวังขโมยมือถือ จึงต่อว่า และใช้มีดพร้าฟันป้องกันตัว หวั่นคนเจ็บทำร้าย ด้านคนเจ็บ หนุ่ม วัย 27 ปี แขนขวาขาด ขอเอาผิดให้ถึงที่สุด อ้างพระคลั่ง ด้านตำรวจรอสอบสวนแจ้งข้อหา

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าที่ จ.นครพนม ความคืบหน้า ปัญหาพระสงฆ์ หรือชาวบ้านเรียกว่า หลวงตาขาว อายุ 68 ปี ก่อเหตุใช้มีดพร้า ฟันแขนโยม คือนาย บี อายุ 27 ปี จนแขวนขวา ขาดใกล้ข้อศอก ชาวบ้านนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล นครพนม เหตุเกิดหลังกุฏิพระหลวงตาขาว ภายในวัดศรีบุญเรือง บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม โดยในที่เกิดเหตุ ยังพบรอยเลือด รวมถึง อาวุธมีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนพระรูปที่ก่อเหตุ เป็นพระลูกวัด จึงย้ายออกจากพื้นที่ ไปอาศัยที่วัดแห่ง หนึ่ง ของ อ.เรณูนคร จ.นครพนม

ภายหลังทางผู้สื่อข่าว เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริง กับ หลวงตาขาว อายุ 68 ปี พระก่อเหตุ ยืนยันว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุ เชื่อว่าคนเจ็บ เข้ามาเลียบเลาะใกล้กุฏิ หวังขโมยมือถือ อีกทั้งยังมีประวัติติดยาเสพติด จึงไม่ไหว้ใจ และมีการว่ากล่าวตักเตือน กรณีมาทำทีขุดจิ้งหรีดรอบกุฏิ พอว่ากล่าวตักเตือน ทำให้คนเจ็บมีอาการไม่พอใจทำท่าทีจะทำร้ายคชตนเอง จึงตัดสินใจคว้ามีดพร้าฟันก่อน เพราะเชื่อว่าหากไม่ลงมือก่อน จะถูกทำร้าย และพร้อมรับผิดตามกฎหมาย

ส่วน นายบี คนเจ็บ กำลังรักษาตัว ที่โรงพยาบาลนครพนม สภาพแขนขวาขาดครึ่ง ใกล้กับข้อศอก แพทย์ไม่สมารถต่อคืนได้ เพราะเซลส์เนื้อตาย และยืนยันจะเอาผิด ดำเนินคดีกับพระสงฆ์รูปที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ส่วนสาเหตุยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเรื่องก่อน ตนเข้าไปขุดจิ้งหรีด หลังกุฏิ ไม่มีเจตนาอื่น แต่พระรูปที่ก่อเหตุ คิดไปเอง และเชื่อว่าพระคลุ้มคลั่งไม่รู้สาหตุ  

สอบถาม นายชัยวัฒน์ ศรีเชียงใหม่ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า ยอรับคนเจ็บมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เคยเสพยาบ้า และเคยเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูมาก่อน ส่วนปัจจุบันไม่แน่ใจว่ายังเสพหรือไม่ แต่ไม่เคยก่อเหตุความรุนแรงในหมู่บ้าน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่า เป็นเรื่องไม่พอใจส่วนตัว  ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุถือว่าเป็นพระปฏิบัติดีรูปหนึ่ง ทราบว่าบวชมาสามพรรษา และมาอยู่ที่วัดช่วงเข้าพรรษา เนื่องจากรู้จักกับพระรักษาการเจ้าอาวาส

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้มีการตรวจสอบเก็บหลักฐาน รอสอบสวนทั้งสองฝั่ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  เมื่อมีคนเจ็บ หรือผู้เสียหายร้องทุกข์ จะได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป