ผู้เป็นแม่ต้องช้ำใจ  เมื่อลูกชายสอบติดโรงเรียนดี แต่ไปเรียนได้ไม่กี่วันถูกรุ่นพี่รับน้องจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ตอนแรกอ้างว่าน้องตกบันไดลงมาเอง แต่คนไม่เชื่อจึงไปแจ้งความ ตอนหลังมีรุ่นพี่ออกมายอมรับว่า เตะเข้าหน้าอกน้องไป 1 ครั้ง ทำให้น้องมีอาการชักเกร็งหมดสติไป  ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบเรื่องนี้เลย  

น.ส.ธนวันต์ อายุ 42 ปี ชาวตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี เป็นแม่ผู้เสียหาย ร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา  ขอให้ทางวิทยาลัยชื่อดังย่านดุสิต ออกมารับผิดชอบด้วย เพราะเหตุเกิดในโรงเรียนเลย 

 น.ส.ธนวันต์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 2 ตนได้รับแจ้งจากอาจารย์ของวิทยาลัยที่ลูกชายเรียนอยู่ว่า  ลูกชายตนเดินตกบันได ชั้น 4 ภายในอาคารเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ตนจึงรีบเดินทางไปยังโรงพยาบาล  พบว่าหมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจลูกชายอยู่  ตนจึงถามอาจารย์ที่นำลูกไปส่งโรงพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น อาจารย์ได้ตอบว่าลูกชายตนเองตกบันได แต่ตนไม่เชื่อว่าลูกจะตกบันไดจริง เพราะตกบันไดไม่น่าจะบาดเจ็บถึงขนาดนี้ ตนจึงเดินทางไปแจ้งความทันที  ยิ่งตนเองไปดูสถานที่เกิดเหตุยิ่งไม่เชื่อใหญ่เลย เพราะบันไดมีไม่กี่ขั้นเอง  ตอนนั้นลูกชายตนเองไม่ได้สติ  หมอได้แจ้งว่าลูกตนเองได้หยุดหายใจมาตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้ว  พอมาถึงโรงพยาบาลจึงช่วยปั๊มหัวใจน้องจนมีชีพจรขึ้นมา  แต่ต้องรอปาฏิหาริย์ให้น้องฟื้นตัวขึ้นมาเอง และตอนนี้น้องอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ  ถ้าถอดออกน้องอาจจะไปทันที

ต่อมาในวันที่ 28 สิงหาสิงหาคม 2567 ทางรุ่นพี่ปี3 ได้ออกมายอมรับสารภาพกับตนว่า  เขาเป็นคนทำร้ายลูกชายตน ด้วยการเตะเข้าที่หน้าอกหนึ่งครั้ง จากนั้นน้องก็มีอาการชักเกร็ง และหมดสติไป จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล  โดยอ้างว่ามีพยาน เป็นผู้หญิงชั้น ปวส.ปี1 ที่อยู่ในเหตุการณ์ 1 คน  ตนจึงนำเรื่องนี้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน. ดุสิต  

สิ่งที่ตนมีข้อสงสัยมีหลายอย่าง   คือทางวิทยาลัยอ้างว่าไม่รู้ว่ามีการรับน้องกันบริเวณชั้น 5 ของอาคารเรียน  แต่ตนมองว่า ทางวิทยาลัยจะไม่รู้ได้อย่างไร เพราะมีนักเรียนขึ้นไปรับน้องกว่า 40 คน  และเรื่องกล้องวงจรปิดทางวิทยาลัยอ้างว่าบริเวณนั้นไม่มีกล้อง แต่ตนไม่เชื่อเพราะ จุดอื่นมีกล้องทั้งหมด  เรื่องนี้อาจมีการช่วยเหลือกัน เพราะปกป้องชื่อเสียงโรงเรียน  ตอนนี้เรื่องก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว  ยังไม่มีใครรับผิดชอบอะไรเลย  ลูกตนเองก็นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล โดยใช้สิทธิ์ 30 บาท รักษา  หมอบอกให้ทำใจไว้  รอปาฏิหาริย์เท่านั้นลูกตนเองถึงจะกลับมาได้  ตนอยากให้ทางวิทยาลัยออกมารับผิดชอบ 


ทางเราได้ติดต่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ณธัชพงศ์ กิรัมย์ ผู้กำกับ สน. ดุสิต ได้ข้อมูลมาว่า  ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในคดีนี้ เราได้ประสานฝ่ายสืบสวนเข้าเก็บรายละเอียดที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว ตอนนี้สำนวนใกล้เสร็จ 100เปอร์เซ็นต์แล้ว  อีกไม่กี่วันคงจะสรุปสำนวนส่งอัยการ