พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า... 


"พื้นที่ทับซ้อน" อีกจุดตายของทักษิณและเพื่อไทย

คำร้อง 6 ข้อที่คุณธีรยุทธ สุวรรณเกษรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสอยคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยนั้น ทางฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยบอก “ไกลเกินไป” ซึ่งดูมีเหตุผลหน่อย แต่ท่านนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวทำนองว่า “เลื่อนลอย ไร้เหตุผล” ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นจริงทั้งหมด (สมาคมนี้เป็นคนละองค์กรกับสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ทนายความ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอำนาจตามกฎหมายในการออกใบอนุญาตทนายความ) 
ผมจบกฎหมายมารุ่นเดียวกับ อ.ชูศักดิ์ ทำงานใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือสืบสวนมาตลอดชีวิต จึงขอนำคำร้องทั้ง 6 ข้อมาขยายความให้ดูทีละข้อว่าแต่ละข้อมีเหตุผลหรือเลื่อนลอยอย่างไร 

วันนี้ขอเริ่มจากคำร้องข้อที่ 2 ที่ใครๆ กล่าวกันว่า “มีน้ำหนักน้อยที่สุด” ก่อน คุณธีรยุทธเขียนไว้ว่า “ 1️⃣ คุณทักษิณมีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกของประเทศกัมพูชา และ 2️⃣ ควบคุมการบริหารงานของรัฐบาลผ่านพรรคเพื่อไทย โดยเจรจา 3️⃣ แบ่งปันผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ในลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศกัมพูชา ทั้งที่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นอธิปไตยของไทย”
🔺ก่อนอื่นขอทบทวนกันก่อนว่าศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีวิธีวินิจฉัยที่มีขอบเขตกว้างขวางกว่าศาลทั่วไป 

ในคำร้องข้อสองของคุณ ธีรยุทธ นั้นผมขอเดาว่าศาลน่าจะต้องนำมาวินิจฉัยอยู่ 3 ประเด็นโดยจะนำข้อ1️⃣ ไปพูดตอนท้ายครับ 


2️⃣ คำร้องเรียนที่อ้างว่า “คุณทักษิณควบคุมการบริหารงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย” ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ในคำร้องทั้ง 6 ข้อ และก็เป็นเรื่องที่หาหลักฐานมายืนยันได้มากมายแบบคนธรรมดาๆ ก็เข้าใจ จึงขอข้ามรายละเอียดในกรณีนี้ไป

3️⃣ คำร้องที่อ้างว่า การแบ่งปันผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเล ในเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศกัมพูชา ทั้งที่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “พื้นที่ดังกล่าวเป็นอธิปไตยของไทย” เรื่องนี้ไม่ต้องดูลงไปลึกมาก จะเอื้อประโยชน์หรือไม่ ดูแค่การแสดงออกของคุณทักษิณ นายกเศรษฐา และนายกอุ๊งอิ๊ง รวมถึงท่าทีของบุคคลในรัฐบาลบางคนที่แสดงออกต่อที่สาธารณะหลายครั้งว่า “จะแบ่งผลประโยชน์กันคนละ 50% กับกัมพูชา” ทั้งๆ ที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อกรณีนี้ออกมาเลยในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังมีท่าทีเฉยๆ อยู่ การแบ่งผลประโยชน์ให้กัมพูชาถึง 50% ในพื้นที่ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ในอธิปไตยของไทย จึงควรทำกันอย่างเปิดเผยจากทุกพรรคร่วมรัฐบาล แต่ดูเสมือนว่าคุณทักษิณไม่ได้ปรึกษาหารือใครเลยซึ่งดูได้อย่างชัดเจนในการแสดงวิสัยทัศน์ของคุณทักษิณเองอีกด้วย คงไม่ต้องไปหาหลักฐานอะไรมาเพิ่มเติมอีกแล้วครับ

1️⃣ ข้อกล่าวหาที่อ้างว่า “คุณทักษิณมีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯ ฮุน เซน” ประเด็นนี้น่าจะต้องมีการหาข้อเท็จจริงย้อนหลังกลับไป เมื่อประมวลรวมกันแล้วก็จะพบว่าคุณทักษิณและสมเด็จฮุน เซนนั้นสนิทสนมกันมากแบบผิดปกติจริงๆ แต่จะมี “พฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิด” กันหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลเท่านั้น ซึ่งเรื่องในลักษณะนี้ดูได้จาก

1.1 กัมพูชาประกาศพื้นที่ไหล่ทวีปตีเส้นตรงมาที่เกาะกูดนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2515 ในสมัยที่กัมพูชายังไม่มีสภาพเป็นประเทศที่สมบูรณ์ด้วยซ้ำ และยังเป็นการอ้างที่แทบจะไม่พึ่งพากฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น แม้จะมีการแก้ไขในเวลาต่อมาแต่ก็ยังมีจุดมุ่งหมายอยู่เช่นเดิม

1.2 ประเทศไทยประกาศพื้นที่ไหล่ทวีปบ้างในปี 2516 โดยอ้างอิงจากกฎหมายระหว่างประเทศทุกขั้นตอน รวมถึงการตั้งกระโจมไฟใหม่ขึ้นมารับรองอาณาเขตเกาะกูดเมื่อปี 2517 อีกด้วย

1.3 อีก 20 ปีต่อมา (25 ต.ค. 2537) คุณทักษิณเข้ามาเล่นการเมืองครั้งแรกเป็น รมว.กต. เพราะ พล.ต.จำลอง หัวหน้าพรรคพลังธรรม เป็นคนชวนเข้ามาเอง โดย พล.ต.จำลองระบุว่า “ช่วงนั้นมีการปรับ ครม.ในรัฐบาลชวน 1 ผมตัดสินใจปรับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ รมว.กต. และ พ.อ.วินัย สมพงษ์ รมว.คค. ในสมัยนั้นออกจากตำแหน่ง เพื่อแลกกับเก้าอี้คุณทักษิณ โดยยอมเสียโควต้า รมต.ไปถึง 2 ตำแหน่ง” ทำไมถึงยอมเสียเปรียบถึงขนาดนี้ เพราะสาเหตุอะไรไม่มีใครรู้ได้นอกจากตัว พล.ต.จำลองเอง
หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีคุณทักษิณขึ้นมาเป็นนายกฯ (9 ก.พ. 2544)

กรณีที่คุณทักษิณซึ่งผ่านทั้งตำแหน่ง รมว.กต. และนายกฯ มาแล้ว คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้เรื่องการประกาศพื้นที่ไหล่ทวีปแบบมั่วๆ ของกัมพูชา

1.4 เมื่อ 12 มิ.ย. 2544 รัฐบาลคุณทักษิณได้ให้เงินกู้พิเศษสร้างถนนให้กัมพูชาเป็นสายแรกยาวถึง 149 กิโลเมตร

หลังจากนั้นอีก 6 วัน (18 มิ.ย. 2544) ก็มีการลงนาม “MOU 2544” ใช้เป็นกรอบในการเจรจาเขตแดนทางทะเลโดยไม่พูดถึงเรื่องเขตอธิปไตยแต่จะคุยเฉพาะผลประโยชน์ในพื้นที่พัฒนาร่วม ซึ่งเท่ากับเป็นการยอมรับการยกเมฆเขตพื้นที่ไหล่ทวีปที่กัมพูชาเขียนขึ้นแบบมั่วซั่วไปโดยปริยาย 

อีก 2 ปีต่อมา (10 มิ.ย. 2546) ครม.มีมติให้เปล่าในการสร้างถนนสายที่สองให้แก่กัมพูชาอีก นับว่าเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนไทยไปสร้างบารมีได้อย่างถูกจังหวะจริงๆ 

1.5  หลังถูกรัฐประหารปี 2549 คุณทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลกัมพูชา และไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ฮุน เซน ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์พยายามยกเลิก MOU 44 ขึ้นแต่ไม่สำเร็จ (เรื่องนี้ต้องรอให้ผู้รู้จริงเขียนน่าจะเหมาะสมกว่าครับ)  

1.6 ปี 2551 พล.อ.เตีย บัญ รองนายกฯ กัมพูชา ได้ให้ข่าวสื่อมวลชนว่า “คุณทักษิณจะลงทุนธุรกิจพลังงานในกัมพูชา โดยจะเช่าเกาะกงและตกลงกับสมเด็จฮุน เซนแล้ว” 

1.7 รัฐธรรมนูญปี 2500 ม.190 ระบุว่า การเจรจาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยและผลประโยชน์ระหว่างประเทศต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์จึงเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ง่ายขึ้นในการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน 


ปี 2552 รัฐบาลกัมพูชาเริ่มให้สัมปทานบริษัทต่างชาติประเทศต่างๆ ในพื้นที่ทับซ้อนแล้ว โดยที่ไทย (รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์) อยู่เฉยๆ ไม่ได้ทักท้วงอะไร มีแต่บริษัทที่ได้รับสัมปทานไป กลับทักท้วงกัมพูชาเสียเองให้มาคุยกับรัฐบาลไทยให้รู้เรื่องเสียก่อน 


1.8 เมื่อ 19 เม.ย. 2555 MGR Online พาดหัวข่าวว่า บ้าแน่ๆ “วิสา-ณัฐวุฒิ-ทักษิณ” ร้องสรรเสริญบารมี “ฮุนเซน” ในงานสงกรานต์ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงถึงความใกล้ชิดมากกว่าปกติ พวกที่ไปร้องเพลงจึงไม่ได้ถือเรื่องศักดิ์ศรีอะไร 


วันที่ 5 ส.ค. 2566 คุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ไปร่วมงานวันเกิดฮุน เซน ซึ่งฮุน เซนระบุว่าทักษิณเป็นพี่ทูนหัว (God brother)
1.9  มาถึงปี 2567 ฮุน เซนมาเยี่ยมคุณทักษิณที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า (ก.พ. 2567) คุณอุ๋งอิ๋งในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเยี่ยมฮุน เซน และฮุน มาเนตที่กัมพูชา (มี.ค.2567) (ก่อนหน้านี้ ก.พ. และ ก.ย. 2566 อดีตนายกเศรษฐาของพรรคเพื่อไทยก็พบปะหารือกับฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา) ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านายกอุ๊งอิ๊งเจรจากับฮุน มาเนตที่กรุงเวียงจันทน์ เรื่องพื้นที่ทับซ้อน
                                     ฯลฯ 
ยังมีอีกหลายเรื่องครับที่ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของคุณทักษิณกับฮุน เซน เช่น การทำธุรกิจในกัมพูชาของตระกูลชินวัตร การแต่งงานของหลานสาวคุณทักษิณกับลูกชายคนสนิทฮุน เซน ฯลฯ แต่เอาแค่นี้ก็พอที่จะชี้ให้เห็นว่าคุณทักษิณกับสมเด็จฮุน เซนสนิทสนมกันแค่ไหน ดังนั้นคำร้องเรียนในข้อที่ 2 ของคุณธีรยุทธที่ใครๆ เห็นว่า “เลื่อนลอย ไกลตัวมากที่สุดแล้ว” นั้น แต่ผมเห็นว่าน่าจะมีน้ำหนักอยู่เกิน 50% ขึ้นไปแล้วครับ

พลโท นันทเดช / 24 ต.ค. 67
FB 17 ต.ค. 67 - “พื้นที่ทับซ้อน “จุดตายของทักษิณและเพื่อไทย