รอง นายกฯ รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยม บก.ทบ. มั่นใจ ทบ. คือหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงในการพิทักษ์และปกป้องสถาบัน
วันนี้ (24 ต.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะตรวจเยี่ยมกองทัพบกอย่างเป็นทางการ เพื่อรับทราบภารกิจการดำเนินงานและมอบนโยบายการปฏิบัติงาน โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการกองทัพบก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ถวายสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 พร้อมรับมอบเครื่องหมายแสดงขีดความสามารถทางทหารชั้นกิตติมศักดิ์ของกองทัพบก ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมคณะได้กระทำพิธีวางพวงมาลา ณ กำแพงอนุสรณ์กองทัพบก ก่อนจะเดินทางไปถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ด้านหน้าหอประชุมกิตติขจร
จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกได้นำคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยี่ยมชมนิทรรศการ ซึ่งจัดแสดงผลงานที่สำคัญของกองทัพบก อาทิ การสนับสนุนการปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหมและแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ, การดำเนินงานที่สำคัญของศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก, การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทหารกองประจำการแบบสมัครใจ, การเตรียมการฝึกและการรับทหารใหม่ของกองทัพบก และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและแผนการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เข้าประชุมเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปภารกิจ และการดำเนินงานที่สำคัญของกองทัพบก พร้อมทั้งมอบนโยบายการปฏิบัติงาน
โดยกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณกองทัพบกที่ให้การต้อนรับในวันนี้ หลังจากได้รับฟังการบรรยายสรุปจากทุกส่วนทำให้ผมมีความมั่นใจว่ากองทัพบกจะยังคงเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงในการขับเคลื่อนและสนับสนุนรัฐบาลในด้านต่าง ๆ อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นความเร่งด่วนสำคัญลำดับแรกที่ต้องดำเนินการในทุกโอกาส และขอชื่นชมกองทัพบก ในการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารที่มีความต่อเนื่องและเป็นระบบ การปรับปรุงโครงสร้างให้ทันสมัย สอดคล้องกับบริบทสังคมในปัจจุบัน ตลอดจนการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการที่ได้ริเริ่มการคัดเลือกทหารกองประจำการแบบสมัครใจ โดยขอให้พัฒนาไปสู่การสมัครใจแบบเต็มรูปแบบในอนาคต ควบคู่การลดจำนวนกำลังพล และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาทดแทนอย่างสมดุล แต่ต้องมีจำนวนที่เพียงพอต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศในยามเกิดเหตุการณ์วิกฤต เพื่อให้สามารถรองรับภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ภัยคอลเซ็นเตอร์ ภัยยาเสพติด และคงความพร้อมในการป้องกันประเทศและขอขอบคุณกองทัพบกในการพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะในกรณีอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือที่ผ่านมาที่มีการดำเนินการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหลักประกันได้ว่ากองทัพบกจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง พร้อมกับเน้นย้ำการดูแลสิทธิกำลังพลทหารชั้นผู้น้อยในด้านต่างๆ โดยขอให้มีการศึกษาถึงความเหมาะสมและรายละเอียดให้ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม