ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศเข้าร่วมโครงการ GoGreen Plus ของดีเอชแอล ซึ่งเป็นการสะท้อนความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างสองบริษัท โดยยูโอบีมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทางอ้อม (Scope 3) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงิน และผลักดันวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธนาคารให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ความร่วมมือนี้เปิดโอกาสให้ยูโอบีใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ในการขนส่งด่วนระหว่างประเทศทางอากาศผ่านบริการ GoGreen Plus ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินธุรกิจของธนาคาร

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO และ Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารต่อความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมากกว่าขอบเขตการดำเนินงานโดยตรงของเรา การร่วมแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมนี้ ถือเป็นแนวทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมในทุกด้านของธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050”

โดยบริการ GoGreen Plus จะใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างไทยและต่างประเทศ สำหรับเอกสารที่สำคัญและเร่งด่วน รวมถึงวัสดุของธนาคารและอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ยูโอบีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินธุรกิจของธนาคารได้

นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย บริการ GoGreen Plus ของเราถือแนวทางที่เป็นรูปธรรมให้บริษัทต่าง ๆ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งด้านโลจิสติกส์ และช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม” 

สำหรับความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ความยั่งยืนแบบองค์รวมของยูโอบี ซึ่งมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งสามประเภท นอกจากความมุ่งมั่นของธนาคารยูโอบีในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงินเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แล้ว ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยังตระหนักถึงความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงิน ซึ่งรวมถึงโลจิสติกส์ในห่วงโซ่อุปทาน การนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินงานของธนาคาร และการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ถือเป็นการดำเนินการเชิงรุกของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ในการตอบสนองต่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ความร่วมมือนี้ยังมีส่วนช่วยในการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคาร และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ สอดคล้องกับความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ ยูโอบี และดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ได้ร่วมลงนามในข้อตกลง GoGreen Plus ในระดับภูมิภาคเพื่อร่วมลงทุนในเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนสำหรับการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศของยูโอบี คาดการณ์ว่าการเข้าร่วมโครงการนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 200 ตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก