ถูกจัดให้เป็นขบวนการก่อการร้ายที่สร้างพิษภัยอย่างร้ายเหลือ

สำหรับ “กองทัพปลดปล่อยบาโลช” หรือ “บีแอลเอ” (BLA : Balochistan Liberation Army) ขบวนการก่อการร้ายที่มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาโลจิสถาน ออกจากการปกครองของรัฐบาลอิสลามาบัดแห่งปากีสถาน จนถูกทางการปากีสถาน อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ขึ้นบัญชีดำให้เป็นหนึ่งในขบวนการก่อการร้ายขบวนการหนึ่ง

โดยพิษภัยอย่างร้ายเหลือ จากขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอข้างต้น ก็ถึงขนาดทำให้รัฐบาลปักกิ่ง ทางการจีน ต้องส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศ ระดับนายกรัฐมนตรี “หลี่ เฉียง” เดินทางมายังกรุงอิสลามาบัด เพื่อมาเจรจาหารือเกี่ยวกับปัญหาจากภัยการก่อการร้ายของขบวนการบีแอลเอนี้ กับนายเชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ถึงในกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถาน กันเลยทีเดียว เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทางการจีนส่งนายหลี เฉียง นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาหารือกับนายกรัฐมนตรีปากีสถานเชห์บาซ ชารีฟ ที่กรุงอิสลามาบัด (Photo : AFP)

ภายหลังจากสมาชิกของขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอ ได้ก่อเหตุโจมตีและวินาศกรรมหลายครั้งหลายครา ในช่วงเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของชาวจีน และผลประโยชน์ต่างๆ ของจีนในปากีสถานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่แคว้นบาโลจิสถานของปากีสถาน ถูกถล่มโจมตี จนแทบจะไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว เพราะต้องระวังการโจมตี และการก่อวินาศกรรมจากฝีมือของขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอที่มีอยู่บ่อยครั้งนี้กันเป็นพัลวัน

แถมมิหนำซ้ำ ขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอข้างต้น ก็ลงมือโจมตีอย่างเหี้ยมโหดอีกต่างหากด้วย

ยกตัวอย่างเช่น การโจมตีรถโดยสารและรถบรรทุกลำเลียงถ่านหินที่แคว้นบาโลจิสถาน เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่ทางกลุ่มก่อการร้ายเรียกหยุดรถทั้งรถบัสโดยสารของคนทำงานเหมืองถ่านหิน และรถบรรทุกถ่านหินที่ลำเลียงมาเป็นขบวน ก่อนบังคับต้อนผู้คนให้ลงมาจากรถ แล้วตรวจบัตรประชาชน ซึ่งถ้าเป็นประชาชนพลเมืองจากแคว้นอื่นๆ ที่มิใช่บาโลจิสถาน ก็จะยิงทิ้งทันที หลังจากนั้นก็จะจุดไฟเผารถจนวอด โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้น คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 70 ศพ

ทั้งนี้ สาเหตุที่กลุ่มบีแอลเอ ลงมืออย่างเหี้ยมเกรียมเช่นนี้ตามการออกมาอ้างความรับผิดชอบ ก็เพื่อโจมตีกิจการทำเหมืองถ่านหินในแคว้นบาโลจิสถานของกลุ่มทุนชาวจีนที่เข้ามาลงทุนเป็นประการสำคัญ โดยทางกลุ่มบีแอลเอ ยังระบุด้วยว่า กลุ่มทุนจีนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ด้วยการสูบทรัพยากรจากแคว้นของพวกเขา เช่น ถ่านหิน และสินแร่ต่างๆ

นอกจากนี้ ทางขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอ ยังก่อเหตุโจมตีแบบพุ่งเป้าโดยตรงไปยังกลุ่มทุนจีนไปเลยก็มี เช่น การโจมตีด้วยระเบิดรถยนต์ หรือคาร์บอมบ์ เข้าใส่ขบวนรถของทีมวิศวกรชาวจีน ที่บริเวณใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ นครการาจี ของปากีสถาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ในจำนวนนี้เป็นวิศวกรชาวจีน 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย

เบ็ดเสร็จนับตั้งแต่ที่ขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอนี้ ก่อเหตุมาโดยพุ่งเป้าถล่มชาวจีนทั้งที่เป็นกลุ่มคนทำงานและกลุ่มนักท่องเที่ยว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้มีชาวจีนในปากีสถาน ต้องสังเวยชีวิตไปแล้วกว่า 100 ราย

เหตุโจมตีรถบรรทุกในแคว้นบาโลจิสถาน ประเทศปากีสถาน โดยกลุ่มบีแอลเอ (Photo : AFP)

ส่งผลให้ทางการจีน รัฐบาลปักกิ่ง ไม่สามารถนิ่งเฉยอยู่ได้ ต้องส่งคนระดับนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาเจรจาหารือกับรัฐบาลปากีสถาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามที่กล่าวแล้วข้างต้น

ผลของการเจรจาหารือ ก็จะให้ทางฝ่ายปากีสถาน ยกระดับด้านการรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวจีนในปากีสถานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงกิจการต่างๆ ของชาวจีน กลุ่มทุนจีนในปากีสถานอีกด้วย

อย่างไรก็ดี บรรดานักวิเคราะห์แสดงทรรศนะว่า ปฏิบัติการก่อการร้ายโดยขบวนการบีแอลเอในปากีสถาน ที่มีต่อชาวจีน ก็คงจะไม่จบไปง่ายๆ เนื่องจากขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอนี้ ไม่พอใจจีน ที่เข้ามายุ่มย่ามในปากีสถานหลายประการด้วยกัน หลังจากที่ทางการรัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผุดอภิมหาโครงการ หรือเมกะโปรเจ็กต์ ระดับโลกขึ้นมา นั่นคือ “แผนการริเริ่มเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21” หรือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือที่หลายคนเรียกกันจนฮิตติดปากว่า “วัน เบลท์ วัน โรด (One Belt One Road)” ซึ่งปรากฏว่า เส้นทางดังกล่าว ก็ลากผ่านเข้ามายังปากีสถานด้วย

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับปากีสถาน (Photo : AFP)

พร้อมกันนั้น เพื่อให้สอดรับกับแผนการริ่เริ่มข้างต้น จีนก็ต้องระดมเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจีนตรงบริเวณเขตปกครองพิเศษซินเจียง-อุยกูร์ เข้ามายังปากีสถาน ทะลุออกชายฝั่งของปากีสถาน ไปยังทะเลอาหรับ ในมหาสมุทรอินเดีย คิดเป็นระยะทางก็มากกว่า 3,000 กิโลเมตรด้วยกัน โดยตรงจุดชายฝั่งที่จะออกทะเลอาหรับข้างต้น ก็ลากผ่านแคว้นบาโลจิสถาน ไปโผล่ที่เมืองกวาดาร์ อันเป็นเมืองท่าสำคัญของปากีสถาน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า จีนได้ระดมเม็ดเงินลงทุนจำนวนไม่น้อยในโครงการก่อสร้างและพัฒนาท่าเรือของเมืองกวาดาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นบาโลจิสถานที่กำลังมีปัญหานั่นเอง

โดยมีรายงานอีกว่า ในโครงการก่อสร้างที่จีนเข้ามาลงทุน ได้สูบทรัพยากรต่างๆ เช่น ถ่านหิน และสินแร่สารพัดจากแคว้นบาโลจิสถานแห่งนี้ รวมถึงการก่อสร้างในโครงการท่าเรือ ยังส่งผลกระทบการทำอาชีพประมงของชาวแคว้นบาโลจิสถานอีกด้วย

ก็ยิ่งส่งผลทำให้สร้างความไม่พอใจแก่ขบวนการก่อการร้ายบีแอลเออีกไปเท่าทวีคูณ จนต้องออกมาก่อเหตุโจมตี จนสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่แผนการเส้นทางสายไหมของทางการจีน ที่มีความร่วมมือกับปากีสถานเป็นประการต่างๆ มิใช่น้อย

อย่างไรก็ดี ทางการปากีสถาน ก็กล่าวโทษว่า ขบวนการก่อการร้ายบีแอลเอ มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นั่นคือ อินเดีย ประเทศคู่ปรับสำคัญของปากีสถาน และรวมไปถึงจีน ที่ทั้งจีนและอินเดีย ต่างก็เป็นชาติคู่แข่งระหว่างกัน ในการขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยทางกาปากีสถาน ระบุว่า อินเดียใช้กลุ่มก่อการร้ายนี้มาสกัดขัดขวางความร่วมมือระหว่างปากีสถานกับจีน รวมถึงยังเป็นการล้างแค้นที่ทางการอินเดีย มีความเข้าใจว่า เหตุโจมตีโรงแรมในนครมุมไบของอินเดีย เมื่อปี 2008 (พ.ศ. 2551) จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายร้อยคนนั้น ทางปากีสถานอยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนกลุ่มการร้ายที่ชื่อว่า ลัชการ์-อี-ตอยบา มาก่อเหตุ