วันที่ 24 ต.ค. 2567 เวลา 14.00 น. ที่สภ.หนองสองห้อง มีประชาชนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนอำเภอหนองสองห้อง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่115 บ้านหนองหวาย ต.หนองไผ่ล้อม อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ร่วม 50 คนนำเอกสารหลักฐานที่เป็นสมุดบัญชีเงินฝากประจำเล่มสีแดง และสมุดบัญชีฝากออมทรัพย์เล่มสีฟ้าและใบการแสดงรับจ่ายเงินสงเคราะห์ เป็นหลักฐาน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองสองห้อง เนื่องจากไม่สามารถเบิกถอนเงินในบัญชีเงินฝากของตัวเองได้ โดยสหกรณ์แจ้งว่าไม่มีเงินให้เบิก ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

โดย นางอำพร อายุ 66 ปี อยู่บ้าน ม.9 บ้านหนองไผ่พัฒนา ต.หนองไผ่ล้อม อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เป็น สมาชิกสหกรณ์ฯมาตั้งแต่ปี 2551 และฝากเงินมาตลอด ไม่เคยกู้ยืม และมีการเบิกถอนได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เคยมีปัญหา แต่มาถึงปี 2567 การเบิกถอนเริ่มสะดุด เพราะเบิกเงินไม่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ พร้อมกับมีกระแสข่าวว่า สหกรณ์ฯขาดสภาพคล่อง จึงขอถอนเงิน และขอปิดบัญชีเพราะไม่ต้องการเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯแห่งนี้แล้ว  แต่ทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์ แจ้งว่า ไม่มีเงินให้ถอน ยังปิดบัญชาไม่ได้ และพยายามติดต่อกับสหกรณ์ฯมาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่สามารถเบิกถอนแอละปิดบัญชีได้ จึงเชื่อว่าสหกรณ์ฯไม่มีเงินให้ คาดว่าสหกรณ์น่าจะล้ม  แต่ตนยังต้องการเงินที่ฝากไว้กับสหกรณ์ฯ จึงเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ ให้ช่วยติดตามเอาเงินจากสหกรณ์มาคืนให้ด้วย

ด้านนางนฤชล  อายุ 42 ปี อยู่บ้าน ม.10 ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นบัญชีเงินฝากของสามี คือ นายพชรอายุ 40 ปีจำนวน 133,214.07 บาท ซึ่งสามีอยู่ต่างประเทศจึงมาดำเนินการแทน โดยครั้งแรกเข้าไปติดต่อที่สหกรณ์ฯ โดยแจ้งว่าสามีอยู่ต่างประเทศสามารถเบิกถอนได้หรือไม่ โดยทางสหกรณ์บอกว่า ให้ยื่นเรื่องไว้เดี๋ยวจะแจ้งดำเนินการตามขั้นตอนและจะติดต่อกลับอีกครั้ง ซึ่งรอมานานไม่มีการติดต่อกลับมาจากทางสหกรณ์ฯ จึงเข้าไปอีกครั้งเพื่อจะขอเบิกเงินในบัญชีของสามีที่อยู่ต่างประเทศ 

โดยทางสหกรณ์บอกว่ายังไม่สามารถเบิกได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ จึงขอเบอร์โทรของผู้บริหารสอบถามว่าเมื่อไหร่จะเบิกเงินได้ โดยทางผู้บริหารบอกว่าหลังวันที่ 18 ต.ค.2567 เพราะอยู่ระหว่างการขอกู้เงินกับสถานบันการเงินอีกแห่งซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน หลังวันที่ 18 ต.ค.2567 ได้เงินแน่นอน ต่อมาวันที่ 15 ต.ค.2567 จึงไปสอบถามอีกครั้ง ซึ่งทางสหกรณ์บอกว่าไม่มีเงิน เต็มที่ได้ 1,000 บาท จึงเบิกมาก่อน หลังวันที่ 18 ก็รอมาเรื่อย กระทั่ง 21 ต.ค.2567 เข้าไปสอบถาม ผจก.สหกรณ์ ว่าจะสามารถเบิกเงินได้เมื่อไหร่ ทางสหกรณ์ชี้แจงว่าสหกรณ์ขาดสภาพคล่อง มีการเปิดเผยรายละเอียดจำนวนลูกหนี้ว่ากี่คน ซึ่งมียอดเป็นหลักล้านบาท มีใครต้องการปิดบัญชีบ้างกี่คนก็เปิดเผยให้ดูทั้งหมด และบอกว่ากำลังดำเนินการอยู่ จึงขอเบิกวันนี้แต่ก็ได้อีกแค่ 1,000 บาท และนัดอีกครั้งในวันที่ 25 ต.ค.2567 จึงกังวลว่าจะไม่ได้เงิน และถ้าจะทยอยให้เงินทีละ 1,000 บาท เงินฝากในบัญชีสามีจำนวนหนึ่งแสนกว่าบาทเมื่อไหร่จะได้คืนหมด และก็ต้องการเป็นเงินก้อนเพื่อนำไปใช้จ่าย ดังนั้นจึงอยากให้ทางสหกรณ์ออกมาชี้แจงและระบุวันชัดเจนมาเลยว่าวันไหนจะได้เงิน ไม่ใช่นัดไปเรื่อยๆ ผลัดวันไปเรื่อยๆแบบนี้โดยไม่มีจุดสิ้นสุด เหมือนตอนนี้เราไปขอเบิกเงินเหมือนเราไปขอทวงหนี้ ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ซึ่งเราเป็นลูกค้า ไม่ใช่เจ้าหนี้ เราต้องการเงินฝากเราคืนมาให้ไวที่สุด

ในเวลาต่อมา ได้มี นายพงศ์พันธ์ แก้วมหาวงศ์ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนอำเภอหนองสองห้อง จำกัด  เดินทางมาพบกับสมาชิกสหกรณ์ฯที่มาแจ้งความ พร้อมกับชี้แจงว่า  สหกรณ์ฯแห่งนี้ตั้งมาตั้งแต่ปี 2542 มีเงินทุนขณะนั้นเพียง 8000 บาท มีสมาชิกเพียง 66 คน ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกกว่า 4000 ราย มีผู้บริหารมาหลายคน แต่ไม่เคยมีปัญหาเพราะสหกรณ์ฯมีสภาพคล่องมาโดยตลอด กระทั่งมีปัญหาที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย จ.ขอนแก่น ที่ไม่มีเงินหมุนเวียน จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ และสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ได้มีการกู้เงินจากสหกรณ์เครือข่ายใกล้เคียง รวมถึงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนอำเภอหนองสองห้อง จำกัดและสหกรณ์อื่นๆประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ทำให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนอำเภอหนองสองห้อง จำกัด มีปัญหาความไม่คล่องตัวลงบ้าง  นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการที่สมาชิกสหกรณ์ฯหลายร้องรายที่ไม่จ่ายหนี้คืนให้กับสหกรณ์ฯ จนสหกรณ์ ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อคัดเกรดของสมาชิกสหกรณ์แยกออกมาเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มปกติ กลุ่มติด 1 งวด กลุ่มติด 3 งวดขึ้นไป รวมแล้ว 185 สัญญา เป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน การประชุมของคณะกรรมการ ก็สรุปร่วมกันว่า เมื่อแยกเกรดของสมาชิกแล้ว ก็จะบริหารจัดการในเรื่องเงินจัดสรรให้กับสมาชิก เบื้องต้น 190 ราย ที่มายื่นขอถอนเงินและปิดบัญชีกับสหกรณ์ โดยจะเรียกประชุมทั้ง 190 รายนี้ โดยจะแยกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ต้องการถอนเงินและปิดบัญชี ซึ่งสหกรณ์ฯตรวจสอบยอดตามที่สมาชิกต้องการเบิกถอนและปิดบัญชีนั้น รวมยอดเงินจำนวน  4,849,200 บาท ซึ่งสหกรณ์ฯเตรียมเงินจำนวนดังกล่าวให้สมาชิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลุ่มที่สมัครใจอยู่ต่อ เป็นสมาชิกสหกรณ์ต่อ จะได้กู้เงิน 90 %ของเงินฝาก หรือไม่มีเงินฝากก็กู้ได้  โดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ต้องมีคนค้ำประกัน  ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2567 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว สหกรณ์ก็จะทะยอยจ่ายเงินให้สมาชิกทุกราย  และขอยืนยันว่า สหกรณ์ไม่ล้ม ไม่มีการทุจริต  ยังมีเงินจ่ายให้กับสมาชิกทุกคน

ด้าน พ.ต.ท.สมคิด นาหนอง  รอง ผกก.(สอบสวน).สภ.หนองสองห้อง  กล่าวว่า ในเบื้องต้นตำรวจจะรับแจ้งความจากประชาชนทุกคน จากนั้นจะมีการเรียกสอบปากคำผู้แจ้งแต่ละราย เพื่อรวบรวมหลักฐาน ว่ามีมูลการกระทำผิดกฏหมายหรือไม่ พร้อมทั้งจะมีการแจ้งเรื่องไปยังสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ลงมาตรวจสอบ ก่อนว่ามีการทุจริตหรือไม่ รวมทั้งจะได้รวบรวมทั้งในเรื่องเอกสาร เรื่องการเบิกจ่าย การรับฝากการรจ่ายเงิน และอื่นๆ เพราะสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น จะมีขั้นตอนและวิธีการตรวจสอบอยู่แล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย  ไม่เช่นนั้นจะไม่ทราบเลยว่าเหตุที่สมาชิกเบิกไม่ได้นั้น เป็นเพราะขาดทุนหรือทุจริต หรือการปล่อยให้สมาชิกกู้ โดยสุจริตแล้วสมาชิกไม่จ่ายหนี้ ขาดทุนจนไม่มีเงินมาจ่ายคืนสมาชิก ซึ่งในส่วนนี้ทางสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯอาจจะไม่ผิดกฏหมายอาญาก็ได้ แต่หากคณะกรรมการหรือผู้จัดการ มีการกระทำผิด มีการทุจริตยักยอกเอาดเงินของสมาชิกไปทำอย่างอื่น อาจมีความผิดในเรื่องยักยอกหรือผิดพรบ.สหกรณ์ ซึ่งหากพบความผิดก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการของกฏหมาย