ถามตรงๆ “หริรักษ์” กาง 6 ปรากฏการณ์ “ทักษิณ” ไม่เคยครอบงำ “เพื่อไทย” หรือไม่

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดี ฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ระบุว่า...

พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่หัวหน้าพรรคลงมาล้วนปฏิเสธว่าไม่มีการครอบงำพรรคโดยคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ได้เป็นแม้แต่สมาชิกพรรค เหตุผลที่อ้างก็แตกต่างกันไป บ้างก็ว่าที่แกนนำพรรคเพื่อไทยเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เย็นวันที่ 14 สิงหาคม 2567 น่ะ เขาเพียงไปร่วมรับประทานอาหารกัน บ้างก็ว่า ไม่เห็นหรือว่า พอออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็มีข่าวว่าจะเสนอชื่อ คุณชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น กลับเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร แล้วจะว่าครอบงำได้อย่างไร สำหรับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คำแก้ต่างก็คือ คงไปทานข้าวกัน ความสัมพันธ์ที่ดีก็คือ ความสัมพันธ์ที่ดี

น่าเศร้าใจมากตรงที่ ผู้ที่ออกมาแก้ตัวน้ำขุ่นให้กับพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ใหญ่ในวงการเมืองทั้งสิ้น มีคนเดียวที่อายุยังน้อยแต่ตำแหน่งใหญ่เบิ้ม คือ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรี

รู้ทั้งรู้ว่าต้องเชื่อฟังเจ้าของพรรคที่เป็นนายใหญ่ แต่ก็ยังทนอยู่และยอมเปลืองตัวปฏิเสธตาใสให้กับนายใหญ่ คนเหล่านี้ไม่สมควรเติบโตทางการเมืองได้ แต่ก็นั่นแหละ ในระบอบประชาธิปไตยของประเทศเรา ผู้ที่ทีอำนาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีและเก่ง แต่ทำอย่างไรก็ได้ให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้ก็พอ

ลองพิจารณาปรากฏการณ์เหล่านี้ แล้วลองบอกทีว่า คุณทักษิณไม่เคยครอบงำพรรค

1. คุณแพทองธาร ชินวัตร อายุขณะนั้นยังไม่ถึง 38 ปี ไม่มีประสบการณ์ใดๆทางการเมือง และไม่มีประสบการณ์ในการบริหารกิจการใดๆ ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแบบไร้คู่แข่ง ไร้ผู้คัดค้าน ทั้งที่ในพรรคเพื่อไทยเต็มไปด้วยนักการเมืองรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ และมีความเหมาะสมกว่าคุณแพทองธาร หลายต่อหลายคน แต่ทุกคนได้แต่ทำตาปริบๆยืนกุมมืออยู่ด้านหลังคุณแพทองธารกันหมด

2. สมเด็จฮุนเซ็น เดินทางมาเยี่ยมคุณทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นการส่วนตัว ในขณะที่ยังเป็นนักโทษ ซึ่งไม่มีใครเชื่อว่า เพียงมาเยี่ยมเท่านั้นโดยไม่มีการเจรจาเรื่องผลประโยชน์อื่นๆ

3. ทุกที่ที่คุณทักษิณไป เช่น เชียงใหม่และที่อื่นๆ จะมีรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมากตามไปเสนอหน้าให้เห็นเสมอ

4. คุณทักษิณไปเป็นประธานงานบวชลูกชายคุณกฤษฎา หลีเนาวรัตน์ นายกเทศมนตรี อ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พร้อมคุณแพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และมีรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยไปร่วมงานด้วยเป็นจำนวนมาก ขึ้นเวทีกล่าวกับคนเสื้อแดง จังหวัดปทุมธานีว่า "ผมกลับมาแล้วนะ พี่น้องเสื้อแดงก็ต้องกลับมาอยู่ดัวยกันนะ........ ผมไปอยู่เมืองนอก 17 ปี โดนยัดข้อหาทุกอย่าง โดนทุกรูปแบบ........ไม่มีใครโดนมากกว่าผม"

5. คุณทักษิณไปแสดงปาฐกถาในงาน dinner talk : Vision for Thailand โดยสำนักข่าวเนชั่นเป็นผู้จัด คุณทักษิณพูดประหนึ่งว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี และต่อมาเปรากฎว่า คำแถลงนโยบายรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร ที่แถลงต่อรัฐสภา บรรจุสิ่งที่คุณทักษิณพูดอยู่ในนโยบายทั้งสิ้น

6. เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง ในเย็นวันเดียวกัน ในขณะที่คุณแพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังอยู่ต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคต่างเข้าไปประชุมกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่ออกมาก็มีข่าวว่า จะเสนอชื่อคุณชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในวันรุ่งขึ้น พรรคเพื่อไทยและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็ออกมาแถลงข่าวร่วมกันว่าจะเสนอชื่อ คุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

เพียงเท่านี้ก็น่าจะบอกได้แล้วว่า คุณทักษิณมีอิทธิพลต่อพรรคเพื่อไทยมากเพียงใด เพียงเรียกตัวแทนพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในเย็นวันที่ 14 สิงหาคม วันที่คุณเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และต้องเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งทุกคนจากทุกพรรคต่างก็วิ่งแจ้นเข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้ากันแทบไม่ทัน อมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อว่า เข้าไปเพียงเพื่อทานอาหารกันเท่านั้น ชัดเจนขนาดนี้ กกต.ไม่น่าจะใช้เวลานานในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคต่อไป

สังเกตว่า ในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะในเดือนนี้ หน้ากากคนดีเริ่มถูกฉีกออกเรื่อยๆ เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เราเห็นว่า ที่แท้ไม่ได้ดีจริง ต่อจากนี้ไปเราก็จะได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นการปัดกวาดบ้านเมืองให้สะอาดขึ้นตามคำทำนายของผู้ที่น่าเคารพนับถือท่านหนึ่งของผม

พวกเราต้องใจเย็นๆ คอยดูต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังครับ

#ข่าววันนี้ #ข่าวการเมือง #การเมือง #ทักษิณ #เพื่อไทย #ครอบงำ