วันที่ 24 ต.ค.67 ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาแม่ลูกผู้เสียหาย 2 ครอบครัว ซึ่งลูกสาวทั้ง 2 คน ตกเป็นเหยื่อกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน กรอกยา รุมโทรม ถ่ายคลิปข่มขู่แบล็กเมล์ ไปพบกับ พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และพ.ต.อ.ชัชวาล พวงคิด ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามคดีที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา และน.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เป็นเหยื่ออีกรายที่ถูกแก๊งทรชนกลุ่มนี้กระทำในลักษณะเดียวกันเมื่อเดือน ก.ย.66 ที่ผ่านมา เกิดความอับอายและหวาดกลัวจึงไม่กล้าบอกใคร หลังเห็นข่าวของน.ส.เอ ถูกกระทำเช่นเดียวกันจึงได้ร้องขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมและพามาแจ้งความในวันนี้
โดยนางรำไพ อายุ 41 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ แล ะน.ส.เอ ลูกสาวอายุ 19 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ขอความเป็นธรรมให้ช่วยติดตามคดีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่าบุตรสาว 19 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนรุมโทรม ใช้สาวนกต่อลวงไปกรอกยา รุมโทรม และถ่ายคลิปแบล็กเมล์ เหตุเกิดเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 10 ก.ย.67 ที่บ้านพักของ 1 ในผู้ต้องหาใน ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งนางรำไพและน.ส.เอ ขอให้นางปวีณา ช่วยติดตามคดีเพราะผ่านมาร่วม 2 เดือนแล้ว ผู้ก่อเหตุยังลอยนวล หลังแจ้งความมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนหน้าบ้าน เกรงครอบครัวเป็นอันตราย
นางรำไพ ยังบอกอีกว่า ได้สอบถามกับตำรวจนายหนึ่งทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นมี “เสี่ยโอ๋” ผู้กว้างขวางมีอิทธิพลหนุนหลัง ใครมีปัญหากับแก๊งนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ลูกสาวตนถูกรุมโทรมร่วม 10 คนเป็นใครจะทนไหว อยากให้นำคนผิดมารับโทษ มิฉะนั้นก็จะไปก่อเหตุแบบนี้กับเด็กสาวคนอื่นอีก ทำเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขอช่วยให้ความยุติธรรมกับลูกสาวตนด้วย
ต่อมามี น.ส.บี (นามสมุติ) อายุ 18 ปี กล่าวว่า ช่วงเดือน ก.ย.66 ที่เกิดเหตุตอนนั้นหนูยังอายุ 17 ปี หนูได้รู้จักกับนายซี (นามสมมุติ) และคุยกันประมาณ 1 เดือน ก่อนเกิดเหตุนายซีได้พาหนูไปที่ผับแห่งหนึ่ง กินเหล้ากับเพื่อนผู้ชายหลายคน หนูเห็นบางคนในกลุ่มเหมือนสูดดมผงสีขาว และหนูรู้สึกคล้ายถูกวางยาเพราะสะลึมสะลือและเมามาก แต่ก็คิดว่านายซี จะดูแลพาไปส่ง แต่ที่ไหนได้นายซี กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนได้ทิ้งหนูไว้กับกลุ่มผู้ชายประมาณ 5 คน และหนูถูกพาไปกระทำที่ห้องเช่ารายวันแห่งหนึ่ง พอรู้สึกตัวขึ้นมาจึงได้รีบกลับหอพักโดยไม่กล้าบอกใคร และไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวจะเป็นอันตราย ผ่านมา 1 ปี ตราบาปยังติดตัวหนู เมื่อเห็นข่าวที่ น.ส.เอ เข้าขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ จึงคิดว่าตัวเองต้องออกมาสู้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง
นางปวีณา กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์ของ น.ส.เอ ก็ได้มี น.ส.บี ติดต่อกับมูลนิธิปวีณา แจ้งว่าเป็นเหยื่อของวัยรุ่นกลุ่มนี้ถูกพาไปรุมโทรมในลักษณะคล้ายกัน และถูกข่มขู่จะปล่อยคลิปอีกด้วย โดยน.ส.เอ และน.ส.บี มีหลักฐานเป็นแชตที่พูดคุยกับคนในแก๊งนี้หลังเกิดเหตุ และข่มขู่จะปล่อยคลิป จึงได้ประสาน พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6. พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ชัชวาล พวงคิด ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย
วันนี้ขอให้ตำรวจออกใบส่งตัวน้องสองคนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ฯ และขอประวัติการรักษา เพราะหลังเกิดเหตุ น.ส.เอ อวัยวะเพศอักเสบติดเชื้อ และมีหนองจึงได้ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลฯ ส่วน น.ส.บี ก็ได้ไปพบแพทย์ฉีดยาป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ที่โรงพยาบาลด้วย สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งกลุ่มเป็นแก๊งมีพฤติกรรมเช่นนี้ ถือเป็นภัยร้ายต่อหญิงสาว และเป็นภัยร้ายต่อสังคม ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการลงมาให้ดำเนินคดีทุกคน ที่กระทำความผิดในครั้งนี้ จึงขอขอบคุณ ผบ.ตร.ด้วยที่ติดตามคดีนี้อย่างจริงจัง