บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย นำโดย คุณรสจันทร์ โลหะกิจสงคราม กรรมการผู้จัดการกลุ่มสำหรับประเทศไทยและเวียดนาม ตอกย้ำความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเคมี ร่วมเปิดบูธจัดแสดงนิทรรศการในงาน "SX Sustainability Expo 2024" งานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในบูธมีการจัดแสดงนวัตกรรมและโซลูชั่นความยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Sustainable Future in A Day with BASF” ซึ่งนำเสนอการใช้ชีวิตในโลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน บอกเล่าถึงบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมเคมีในการกำหนดอนาคตที่ดีขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงโซลูชั่นความยั่งยืนในระดับอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้และเข้าใจนวัตกรรมสำคัญที่จะเปลี่ยนอนาคตได้
โดยภายในงาน บีเอเอสเอฟ ได้นำนวัตกรรมมากกว่า 30 รายการมาจัดแสดง สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสนวัตกรรมความยั่งยืนที่เป็นผลิตภัณฑ์จริงที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นจนถึงเข้านอน อาทิ ฉนวนความร้อนในบ้านที่ช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปลดปล่อยคาร์บอน ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ปลอดภัยต่อแนวปะการัง การนำผลิตภัณฑ์เหลือใช้ทุกส่วนจากต้นเงาะมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์วิตามินที่ลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 20% เมื่อเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม ครอบคลุมไปจนถึงโซลูชั่นสำหรับพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนขึ้น ในส่วนของอุตสากรรมยานยนต์บีเอเอสเอฟยังได้นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนความยั่งยืนของยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การคมนาคมที่ยั่งยืนขึ้นในอนาคต
ขณะที่อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในบูธ คือการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นผลิตเสื้อผ้าที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยบีเอเอสเอฟได้จัดแสดงเสื้อแจ็คเก็ตตัวแรกของโลกที่ผลิตจากขยะสิ่งทอรีไซเคิล 100% จากแบรนด์ ZARA รวมไปถึงการทำงานร่วมกับแบรนด์ในยุโรปผลิตกางเกงปีนเขา Vaude และกระเป๋า Pinq Ponq จากโพลีเอไมด์ที่ได้มากจากวัตถุดิบที่มาจากการรีไซเคิลยางรถยนต์เก่า ภายใต้กระบวนการแมสบาลานซ์ (Mass Balance) และการจัดแสดงรองเท้าต้นแบบที่ผลิตจากโพลียูรีเทนเพียงวัสดุเดียว จึงสามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องแยกชิ้นส่วน ในส่วนของโซลูชั่นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม บีเอเอสเอฟได้นำเสนอผลิตภัณฑ์แคทาลิสท์ (catalysts) ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ในการแยกและดักจับคาร์บอน (Carbon Capture) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมให้เกิดขึ้นได้จริง
บีเอเอสเอฟ ยังได้เปิดประสบการณ์ให้กับทุกคนได้รู้จักกับ BASF Verbund ซึ่งเป็นต้นแบบเคมิคัลคอมเพล็กซ์ที่ยั่งยืนและใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ มีการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าทำให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีการปลดปล่อยคาร์บอนในระดับต่ำ ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 150 ปีในประเทศเยอรมัน จากเวอร์บุนด์รวมทั้งสิ้น 6 แห่งและกว่า 250 โรงงานทั่วโลก ช่วยสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเคมีภัณฑ์คาร์บอนต่ำกว่า 45,000 รายการ เพื่อตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนให้กับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ตลอดการจัดงาน 10 วัน บูธของบีเอเอสเอฟได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมกว่า 10,000 คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ แสดงถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนยั่งยืน พร้อมเปิดกว้างสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างโลกที่สมดุลและยั่งยืนร่วมกัน
เกี่ยวกับบีเอเอสเอฟประเทศไทย
โดย บีเอเอสเอฟดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 55 ปี บริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่มีความหลากหลาย และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆได้แก่ โซลูชั่นทางการเกษตร ตัวกลางและตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการ โมโนเมอร์ ปิโตรเคมี สารเคลือบ สารกระจายตัวและเรซิน เคมีภัณฑ์สมรรถนะสูง สารเคมีเพื่อการดูแล โภชนาการและสุขภาพ และวัสดุประสิทธิภาพ บีเอเอสเอฟประเทศไทยก่อตั้งขึ้นในปี 2509 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพ มีโรงงานผลิต 3 แห่งในจังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง อีกทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านเทคนิคของธุรกิจสีพ่นรถยนต์ และศูนย์พัฒนาทางเทคนิคของธุรกิจโพลิเมอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงประจำภูมิภาคอาเซียนในจังหวัดสมุทรปราการ โดยในปี 2566 ยอดขายของกลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟสำหรับลูกค้าในประเทศไทย มีมูลค่า 570 ล้านยูโร และมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 625 คน ณ สิ้นปี