วันที่ 24 ต.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนใต้ (กก.สส.2 บก.สส.จชต.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 (ปปส.ภาค 9) ติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ลักลอบลำเลียงไอซ์ จำนวน 100 กิโลกรัม มูลค่า 20 ล้านบาท ขนมากับรถตู้วีไอพีจากกรุงเทพมหานคร ส่งเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยซุกซ่อนไอซ์ของกลางในช่องลับใต้หลังคารถตู้ ซึ่งเป็นรถตู้ที่ปกติจะใช้ในการรับส่งนักท่องเที่ยวจากชายแดนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ไปยังกัวลาลัมเปอร์ แต่ถูกนำมาลำเลียงไอซ์

ปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายค้ายาไอซ์ข้ามชาติเคสนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดมากับรถตู้ จากกรุงเทพฯ ลงไปยังพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส จึงร่วมกันวางแผนจัดกำลังไปเฝ้าตามเส้นทางถนนสายเอเชีย จนพบรถตู้เป้าหมาย จึงสะกดรอยตาม และสกัดจับที่ด่านตรวจควนมีด ต.ควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา โดยคนขับเป็นชาย อายุ 30 ปี ชาว อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จากการตรวจค้นในรถตู้พบไอซ์ 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนในช่องลับใต้หลังคา

จากากรสอบสวนคนขับให้การว่า จะลำเลียงไอซ์จากกรุงเทพฯ ไปส่งเครือข่ายในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนให้นำไอซ์ไปส่งยังปลายทางเพื่อสาวไปถึงคนรับของ จนสามารถจับกุมชาย อายุ 51 ปี ชาว อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้อีก 1 คน ซึ่งขับรถตู้และดัดแปลงช่องลับใต้หลังคาเช่นกันขณะขับมารับไอซ์ได้ที่พื้นที่ อ.เมือง จ.นราธิวาส

นอกจากนี้ ยังได้ขยายผลต่อไปจับกุม ชาย อายุ 38 ปี ชาว อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนสั่งการในการลำเลียง โดยจับได้ในพื้นที่พื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

สำหรับไอซ์ 100 กิโลกรัมล็อตนี้ จากการสอบสวนทราบว่าปลายทางสุดท้ายจะลักลอบลำเลียง ไปส่งลูกค้าที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยใช้รถตู้ลำเลียงไปพร้อมๆกับการขนส่งผู้โดยสารจาก อ.สุไหงโกลก ไปยังกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตามปกติ เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่

และนอกจากจะยึดไอซ์ 100 กิโลกรัมได้ และผู้ต้องหารวม 3 คน ทั้งคนลำเลียงและคนสั่งได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์สิน มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท มีรถยนต์ จำนวน 7 คัน ทั้งรถตู้ รถเก๋ง รถกระบะ (ตู้ เก๋ง กระบะ) ที่ดิน 6 แปลง เงินไทย รวม 40,000 บาท เงินมาเลเซีย 12,230 ริงกิต อาวุธปืน 2 กระบอก และจะขยายผลต่อไปยังเครือข่ายค้าไอซ์ข้ามชาติกลุ่มนี้ทั้งต้นทางและปลายทางโดยจะประสานกับทางการมาเลเซียในการจับกุมเครือข่ายทั้งคนไทยและคนมาเลเซียที่ร่วมขบวนการ

สำหรับไอซ์ทั้ง 100 กิโลกรัม ที่ยึดได้ตีราคาขายในไทยประมาณ 20 ล้าน แต่หากสามารถส่งไปยังมาเลเซียได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว