จากมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปี 2567 รวมถึงแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ด้วยโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ซึ่งใช้งบประมาณปกติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สู่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยวตลาดในประเทศในช่วงโควิด19 โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำมาปัดฝุ่น เพื่อเตรียมชงเข้า ครม. พิจารณาในไตรมาสแรกปีหน้า ในการกระตุ้นการดินทางในช่วงโลว์ซีซัน 2568 ด้วยงบที่เคยใช้ในเบื้องต้นที่ผ่านมาราว 24,000 ล้านบาทหรือมากกว่านั้นจะเป็นไปได้เพียงใดที่จะขับเคลื่อนสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศให้เกิดผลดีต่อผู้ประกอบการทุกๆ ฝ่าย ท่ามกลางค่าเงินบาทแข็งค่าจนทำให้ชาวไทยเดินทางไปเที่ยวนอก ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจโลกทรุดตัวส่งผลให้ชาวต่างชาติเดินทางออกนอกประเทศน้อยลง

แก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้น

โดย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า  ทางกระทรวงฯ เตรียมหารือกับกระทรวงการคลังช่วงเดือนพฤศจิกายน เพื่อพิจารณาวงเงินงบประมาณสำหรับจัดทำโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน ปี 2568 ด้วยเงื่อนไขกับหลักเกณฑ์ของการเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม อาทิ อัตราการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากรัฐบาล  หรือการะบุเมืองน่าเที่ยว ประกอบด้วย 55 จังหวัดเมืองรอง และเที่ยววันธรรมดา จะได้รับอัตราการสนับสนุนจากรัฐบาลมากกว่าการเดินทางไปเมืองหลักและเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ รวมไปถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้น อาทิ รายได้ไหลออกนอกประเทศจากการจองผ่านออนไลน์ทราเวลเอเยนต์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในเมืองไทย หรือจำนวนห้องพักที่ถูกใช้มากเกินกว่าจำนวนที่มีจริง เป็นต้น

ทั้งนี้ นายสรวงศ์ ยังกล่าวถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่นำมาปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่นั้น ทางรัฐบาลได้สนับสนุนวงเงินใช้จ่ายในโรงแรมที่พัก 40% ประชาชนจ่าย 60% และมีวงเงินใช้จ่ายในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการได้ด้วย โดยใช้งบประมาณ ราว 2 หมื่นล้านบาท แต่การทำงานในครั้งนี้ คงต้องศึกษาวงเงินที่เหมาะสมที่รัฐบาลจะสนับสนุนได้มากน้อยเพียงใด

โดยจะต้องไปปิดช่องโหว่การทุจริตในโครงการที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย แต่ในเบี้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ด้วยจำนวนสิทธิ 5.6 แสนสิทธิ ถือเป็นโครงการใหญ่ ทำให้ต้องมีการหารือเพิ่มเติมในฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาวงเงินงบประมาณ รวมถึงจำนวนสิทธิที่จะให้กับประชาชนเข้าร่วมโครงการ รูปแบบการใช้จ่ายผ่านช่องทางใด และจำนวนเงินที่รัฐบาลสนับสนุนจะยังคงที่ 40% เท่าเดิมหรือไม่ ในเรื่องนี้จะต้องหารือกันเพื่อหารความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม

หวังได้ประโยชน์ทั้งระบบ 

ด้าน  นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ทางททท.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และแผนการดำเนินงานในส่วนของพื้นที่ และจำนวนเงินที่เหมาะสมในการผลักดันโครงการกระตุ้นดังกล่าวให้เกิดขึ้น เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ประโยชน์ทั้งระบบ  โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเสนอต่อรัฐมนตรี ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อที่ว่าทางรัฐมนตรีได้นำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาข้อสรุป ในการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในไตรมาส 1 ปี 2568 และสามารถใช้ได้ทันในช่วงโลว์ซีซันปีหน้า

โดย นางสาว ฐาปนีย์ กล่าวว่า โครงการกระตุ้นท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ เราเที่ยวด้วยกัน  ในรัฐบาลยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 58,621 ล้านบาท จากการใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ  24,000 ล้านบาท