ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค.67 เวลา 17.00 น. พ.ต.ท.กำพล บัวจันทร์ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากสายลับประสงค์รางวัลสินบนนำจับว่ามี นายบุญมี  อายุ 59 ปี ราษฎรบ้านกลาง บ้าน หมู่ที่ 8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยจะมีการลักลอบน้ำยาบ้าและยาเสพติดจากบริเวณริมแม่น้ำโขงมาส่งต่อให้ลูกค้าเป็นประจำ ทั้งส่งไปขายต่อทางไปรษณีย์ขนส่งทั้งของรัฐและเอกชน ยาบ้าและยาเสพติดภายในตัวอำเภอเมืองจังหวัดบึงกาฬ และมักมีวัยรุ่นมามั่วสุมเสพยาเสพติดอยู่ประเป็นประจำที่บริเวณบ้าน หมู่ที่ 11 ตำบลชัยพร อำเภอเมือง ซึ่งเป็นบ้านที่นายบุญมีเช่าพักอาศัยอยู่ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบเพื่อจับกุม  จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา รอง ผบก.ฯ รรท.ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ทราบ และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ สนธิกำลังกับว่าที่ พ.ต.อ. จตุพร เนวะมาตย์ ผกก.ตม.บึงกาฬ พ.ต.ท.กฤษฏิ์ ศรีหาบุญทัน สว.ส.ทล.3กก.4 บก.ทล.นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว

ที่เกิดเหตุพบนายบุญมี นั่งอยู่บริเวณบ้าน จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้น  จึงแสดงกิริยาท่าทางตกใจคล้ายกับคนมีสิ่งของผิดกฎหมาย  จึงสอบถามถึงพัสดุที่นำส่ง ซึ่งนายบุญมี ได้ยอมรับสารภาพว่า ใต้รับการว่าจ้างจากท้าวยา ชาว สปป.ลาว เป็นเงินจำนวน 3,000 บาท ให้นำกล่องกระดาษ จำนวน 4 กล่อง ไปส่งให้ลูกค้าของท้าวยาตามที่อยู่ที่ท้าวยาส่งมาให้ทางโปรแกรมข้อความของเฟซบุ๊ก

โดยตนเองจะนำกล่องพัสดุดังกล่าวไปส่งที่ร้านรับจัดส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาชัยพร หมู่ที่ 11 ตำบลชัยพร พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบกล่องดังกล่าวทั้ง 4 กล่อง เมื่อไปถึงร้านรับจัดส่งพัสดุดังกล่าว พบของกลางสำดับที่ 2-5 กล่องกระดาษ จำนวน 4 กล่อง แยกเป็น กล่องกระดาษ ขนาดใหญ่ จำนวน 2 กล่อง กล่องกระดาษ ขนาดกลาง 1 กล่อง ,กล่องกระดาษ ขนาดเล็ก 3 กล่อง จึงทำการตรวจสอบภายในกล่องกระดาษ ทั้ง 4 กล่อง พบภายในกล่องขนาดใหญ่ จำนวน 2 กล่อง มีซองอาหารเสริมคอลลาเจนยี่ห้อ คูมิโกะสีชมพู ซุกซ่อนอยู่ภายใน รวม 410 ซอง กล่องขนาดกลาง จำนวน 1 กล่อง พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นก้อนสีขาวซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 2 ถุง ซึ่งเป็นถุงยาอี  และกล่องขนาดเล็ก จำนวน 1 กล่อง พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นก้อนสีน้ำตาลดำ ซุกช่อนอยู่ในถุงพลาสติกใสจำนวน 1 ถุง ซึ่งเป็นยาอีเช่นกัน น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัมกว่าๆ  จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

พร้อมกับนำตัว นายบุญมี  พร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ กก.สส.ก.จว.บึงกาฬ  ตรวจสอบปัสสาวะเบื้องต้นเพื่อหาสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีน โดยความยินยอมของ นายบุญมี  ผลการตรวจสอบเบื้องต้นมีผลบวก โดยนายบุญมี ให้การว่าตนได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้จริง และเคยรับจ้างส่งของจากชาวลาวมาแล้ว 5 ครั้ง ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาถูกจับครั้งนี้ครั้งแรก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวอย่างน้ำปัสสาวะของ นายบุญมี ส่งตรวจที่โรงพยาบาลบึงกาฬ ปรากฏผลเป็นบวก ตามเอกสารที่แบบมาชั้นจับกุม จึงแจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้นายบุญมี ทราบว่าจะต้องถูกจับกุม ตัวในข้อหา "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้าหรือเมทแอฟเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ,มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย" ให้ นายบุญมี ทราบแล้วและ ให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหาจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป